เมนู

ตถา หิ เวลามสุตฺเต (อ. นิ. 9.20) ‘‘กรีสสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาณานํ จตุราสีติสหสฺสสงฺขฺยานํ สุวณฺณปาติรูปิยปาติกํสปาตีนํ ยถากฺกมํ รูปิยสุวณฺณหิรญฺญปูรานํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตานํ จตุราสีติยา หตฺถิสหสฺสานํ จตุราสีติยา อสฺสสหสฺสานํ จตุราสีติยา รถสหสฺสานํ จตุราสีติยา เธนุสหสฺสานํ จตุราสีติยา กญฺญาสหสฺสานํ จตุราสีติยา ปลฺลงฺกสหสฺสานํ จตุราสีติยา วตฺถโกฏิสหสฺสานํ อปริมาณสฺส จ ขชฺชโภชฺชาทิเภทสฺส อาหารสฺส ปริจฺจชนวเสน สตฺตมาสาธิกานิ สตฺต สํวจฺฉรานิ นิรนฺตรํ ปวตฺตเวลามมหาทานโต เอกสฺส โสตาปนฺนสฺส ทินฺนํ มหปฺผลตรํ, ตโต สตํ โสตาปนฺนานํ ทินฺนทานโต เอกสฺส สกทาคามิโน, ตโต เอกสฺส อนาคามิโน, ตโต เอกสฺส อรหโต, ตโต เอกสฺส ปจฺเจกสมฺพุทฺธสฺส, ตโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส, ตโต พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ทินฺนทานํ มหปฺผลตรํ, ตโต จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหารกรณํ, ตโต สรณคมนํ มหปฺผลตร’’นฺติ ปกาสิตํฯ วุตฺตญฺเหตํ –

‘‘ยํ, คหปติ, เวลาโม พฺราหฺมโณ ทานํ อทาสิ มหาทานํ, โย เจกํ ทิฏฺฐิสมฺปนฺนํ โภเชยฺย, อิทํ ตโต มหปฺผลตร’’นฺติ (อ. นิ. 9.20) –

อาทิฯ เอวํ สรณคมนผลํ เวทิตพฺพํฯ

สรณคมนผลกถา นิฏฺฐิตาฯ

สรณคมนสํกิเลสเภทกถา

ตตฺถ จ โลกิยสรณคมนํ ตีสุ วตฺถูสุ อญฺญาณสํสยมิจฺฉาญาณาทีหิ สํกิลิสฺสติ, น มหาชุติกํ, น อุชฺชลํ อปริสุทฺธํ อปริโยทาตํ โหติ, น มหาวิปฺผารํ อนุฬารํฯ เอตฺถ จ อญฺญาณํ นาม วตฺถุตฺตยสฺส คุณานํ อชานนํ ตตฺถ สมฺโมโหฯ ‘‘พุทฺโธ นุ โข, น นุ โข’’ติอาทินา วิจิกิจฺฉา สํสโยฯ มิจฺฉาญาณํ นาม ตสฺส คุณานํ อคุณภาวปริกปฺปเนน วิปรีตคฺคาโหติ เวทิตพฺพํฯ โลกุตฺตรสฺส ปน สรณคมนสฺส นตฺถิ สํกิเลโสฯ โลกิยสฺส จ สรณคมนสฺส ทุวิโธ เภโท สาวชฺโช อนวชฺโช จฯ ตตฺถ สาวชฺโช อญฺญสตฺถาราทีสุ อตฺตนิยฺยาตนาทีหิ โหติ, โส อนิฏฺฐผโลฯ อนวชฺโช ปน กาลกิริยาย โหติฯ โลกิยญฺหิ สรณคมนํ สิกฺขาปทสมาทานํ วิย อคฺคหิตกาลปริจฺเฉทกํ ชีวิตปริยนฺตเมว โหติ, ตสฺมา ตสฺส ขนฺธเภเทน เภโท, โส อวิปากตฺตา อผโลฯ โลกุตฺตรสฺส ปน เนวตฺถิ เภโทฯ ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก อญฺญํ สตฺถารํ น อุทฺทิสตีติฯ เอวํ สรณคมนสฺส สํกิเลโสเภโท จ เวทิตพฺโพฯ

กสฺมา ปเนตฺถ โวทานํ น คหิตํ, นนุ โวทานวิภาวนาปิ ตตฺถ โกสลฺลาย โหตีติ? สจฺจเมตํ, ตํ ปน สํกิเลสคฺคหเณน อตฺถโต ทีปิตํ โหตีติ น คหิตํฯ

ยานิ หิ เตสํ สํกิเลสการณานิ อญฺญาณาทีนิ , เตสํ สพฺเพน สพฺพํ อนุปฺปาทเนน อุปฺปนฺนานญฺจ ปหาเนน โวทานํ โหตีติฯ เอวเมตฺถ ‘‘สรณํ สรณคมน’’นฺติอาทีนํ ปปญฺโจ เวทิตพฺโพฯ อิมสฺส ปน ยถาวุตฺตปปญฺจสฺส อิธ อวจเน การณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โส ปน อิธ วุจฺจมาโน’’ติอาทิฯ ตตฺถ สรณวณฺณนโตติ สามญฺญผลสุตฺเต วุตฺตสรณวณฺณนโตฯ

สรณคมนสํกิเลสเภทกถา นิฏฺฐิตาฯ

อุปาสกตฺตปฏิเวทนากถา

เอวํ ธาเรตูติ เอวํ ชานาตูติ อตฺโถฯ เอตฺถ โก อุปาสโกติ สรูปปุจฺฉา, ตสฺมา กิํลกฺขโณ อุปาสโกติ วุตฺตํ โหติฯ กสฺมาติ เหตุปุจฺฉาฯ เตน เกน ปวตฺตินิมิตฺเตน อุปาสกสทฺโท ตสฺมิํ ปุคฺคเล นิรุฬฺโหติ ทสฺเสติฯ เตนาห ‘‘กสฺมา อุปาสโกติ วุจฺจตี’’ติฯ สทฺทสฺส หิ อภิเธยฺยปวตฺตินิมิตฺตํ ตทตฺถสฺส ตพฺภาวการณํฯ กิมสฺส สีลนฺติ กีทิสํ อสฺส อุปาสกสฺส สีลํ, กิตฺตเกน สีเลนายํ สีลสมฺปนฺโน นาม โหตีติ อตฺโถฯ โก อาชีโวติ โก อสฺส สมฺมาอาชีโวฯ โส ปน มิจฺฉาชีวสฺส ปริวชฺชเนน โหตีติ โสปิ วิภชียติฯ กา วิปตฺตีติ กสฺส สีลสฺส อาชีวสฺส วา วิปตฺติฯ อนนฺตรสฺส หิ วิธิ วา ปฏิเสโธ วาฯ สมฺปตฺตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ

อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพนฺติ กถํ เวทิตพฺพํ? วุจฺจเต – โก อุปาสโกติ ขตฺติยาทีสุ โย โกจิ ติสรณํ คโต คหฏฺโฐฯ สรณคมนเมว เหตฺถ การณํ, น ชาติอาทิวิเสโสฯ วุตฺตญฺเหตํ ‘‘ยโต โข, มหานาม, พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติฯ เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก โหตี’’ติ (สํ. นิ. 5.1033)ฯ

กสฺมา อุปาสโกติ รตนตฺตยอุปาสนโตฯ เตเนว สรณคมเนน ตตฺถ จ สกฺกจฺจกิริยาย อาทรคารวพหุมานาทิโยเคน ปยิรุปาสนโตติ วุตฺตํ โหติฯ โส หิ พุทฺธํ อุปาสตีติ อุปาสโกฯ ธมฺมํ, สงฺฆํ อุปาสตีติ อุปาสโกฯ