เมนู

สรณคมนกถา

สรณคมนสฺส วิสยปฺปเภทผลสํกิเลสเภทานํ วิย กตฺตุ จ วิภาวนา ตตฺถ โกสลฺลาย โหตีติ ‘‘สรณคมเนสุ โกสลฺลตฺถํ สรณํ…เป.… เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ เตน วินา สรณคมนสฺเสว อสมฺภวโตฯ ตตฺถ สรณนฺติ ปทตฺถโต ตาว หิํสตีติ สรณํฯ หิํสตฺถสฺส หิ สรสทฺทสฺส วเสเนตํ ปทํ ทฏฺฐพฺพํ, ตสฺมา สรณคตานํ เตเนว สรณคมเนน วฏฺฏภยํ จิตฺตุตฺราสํ กายิกํ ทุกฺขํ ทุคฺคติปริยาปนฺนํ สพฺพมฺปิ ทุกฺขํ หนติ, วินาเสตีติ อตฺโถฯ รตนตฺตยสฺเสเวตํ อธิวจนํ ฯ อถ วา หิเต ปวตฺตเนน ‘‘สมฺปนฺนสีลา, ภิกฺขเว, วิหรถา’’ติอาทินา (ม. นิ. 1.64) อตฺเถ นิโยชเนน อหิตา จ นิวตฺตเนน ‘‘ปาณาติปาตสฺส โข ปน ปาปโก วิปาโก, ปาปกํ อภิสมฺปราย’’นฺติอาทินา อาทีนวทสฺสนาทิมุเขน อนตฺถโต นิวตฺตเนน สตฺตานํ ภยํ หิํสติ, หิตาหิเตสุ อปฺปวตฺติปวตฺติเหตุกํ พฺยสนํ อปวตฺติกรเณน วินาเสติ พุทฺโธฯ ภวกนฺตารอุตฺตรเณน มคฺคสงฺขาโต ธมฺโม สตฺตานํ ภยํ หิํสติ, อิตโร อสฺสาสทาเนนฯ อปฺปกานมฺปิ ทานวเสน ปูชาวเสน จ อุปนีตานํ สกฺการานํ วิปุลผลปฏิลาภกรเณน สตฺตานํ ภยํ หิํสติ สงฺโฆ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาวโต, ตสฺมา อิมินาปิ วิภชิตฺวา วุตฺตปริยาเยน รตนตฺตยํ สรณํฯ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’’ติ เอวํ ปวตฺตรตนตฺตยปสอาทตคฺครุกตาหิ วิธุตทิฏฺฐิวิจิกิจฺฉาสมฺโมหอสฺสทฺธิยาทิตาย วิหตกิเลโส ตเทว รตนตฺตยํ สรณํ ปรายณํ คติ ตาณํ เลณนฺติ เอวํ ปวตฺติยา ตปฺปรายณตาการปฺปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท สรณคมนํ สรณนฺติ คจฺฉติ เอเตนาติ กตฺวาฯ เตน ยถาวุตฺตจิตฺตุปฺปาเทน สมนฺนาคโต สตฺโต สรณนฺติ คจฺฉติ, วุตฺตปฺปกาเรน จิตฺตุปฺปาเทน ‘‘เอตานิ เม ตีณิ รตนานิ สรณํ, เอตานิ ปรายณ’’นฺติ เอวํ อุเปติ ภชติ เสวติ ปยิรุปาสติ, เอวํ วา ชานาติ, พุชฺฌตีติ อตฺโถฯ เอวํ ตาว สรณํ, สรณคมนํ, โย จ สรณํ คจฺฉติ, อิทํ ตยํ เวทิตพฺพํฯ

สรณคมนปฺปเภเท ปน ทุวิธํ สรณคมนํ โลกุตฺตรํ โลกิยญฺจฯ ตตฺถ โลกุตฺตรํ ทิฏฺฐสจฺจานํ มคฺคกฺขเณ สรณคมนุปกฺกิเลสสมุจฺเฉทเนน อารมฺมณโต นิพฺพานารมฺมณํ หุตฺวา กิจฺจโต สกเลปิ รตนตฺตเย อิชฺฌติฯ อตฺถโต จตุสจฺจาธิคโม เอว หิ โลกุตฺตรสรณคมนํฯ ตตฺถ หิ นิพฺพานธมฺโม สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน, มคฺคธมฺโม ภาวนาภิสมยวเสน ปฏิวิชฺฌิยมาโนเยว สรณคมนตฺถํ สาเธติ, พุทฺธคุณา ปน สาวกโคจรภูตา ปริญฺญาภิสมยวเสน, ตถา อริยสงฺฆคุณาฯ เตน วุตฺตํ ‘‘กิจฺจโต สกเลปิ รตนตฺตเย อิชฺฌตี’’ติ ฯ อิชฺฌนฺตญฺจ สเหว อิชฺฌติ, น โลกิยํ วิย ปฏิปาฏิยา อสมฺโมหปฏิเวเธน ปฏิวิทฺธตฺตาฯ

เย ปน วทนฺติ ‘‘น สรณคมนํ นิพฺพานารมฺมณํ หุตฺวา ปวตฺตติ, มคฺคสฺส อธิคตตฺตา ปน อธิคตเมว โหติ เอกจฺจานํ เตวิชฺชาทีนํ โลกิยวิชฺชาทโย วิยา’’ติ, เตสํ โลกิยเมว สรณคมนํ สิยา, น โลกุตฺตรํฯ ตญฺจ อยุตฺตํ ทุวิธสฺสปิ อิจฺฉิตพฺพตฺตาฯ โลกิยํ ปน สรณคมนํ ปุถุชฺชนานํ สรณคมนุปกฺกิเลสวิกฺขมฺภเนน อารมฺมณโต พุทฺธาทิคุณารมฺมณํ หุตฺวา อิชฺฌติฯ ตํ อตฺถโต พุทฺธาทีสุ วตฺถูสุ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา’’ติอาทินา สทฺธาปฏิลาโภ ยถาวุตฺตสทฺธาปุพฺพงฺคมา จ สมฺมาทิฏฺฐิ, ทสสุ ปุญฺญกิริยวตฺถูสุ ทิฏฺฐิชุกมฺมนฺติ วุจฺจติฯ เอตฺถ จ ‘‘สทฺธาปฏิลาโภ’’ติ อิมินา มาตาทีหิ อุสฺสาหิตทารกาทีนํ วิย ญาณวิปฺปยุตฺตสรณคมนํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ‘‘สมฺมาทิฏฺฐี’’ติ อิมินา ปน ญาณสมฺปยุตฺตํ สรณคมนํ ทสฺสิตํ พุทฺธสุพุทฺธตํ ธมฺมสุธมฺมตํ สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติญฺจ โลกิยาวโพธวเสเนว สมฺมา ญาเยน ทสฺสนโตฯ

ตยิทํ โลกิยสรณคมนํ จตุธา ปวตฺตติ อตฺตสนฺนิยฺยาตเนน ตปฺปรายณตาย สิสฺสภาวูปคมเนน ปณิปาเตนาติฯ ตตฺถ อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ นาม ‘‘อชฺช อาทิํ กตฺวา อหํ อตฺตานํ พุทฺธสฺส นิยฺยาเตมิ, ธมฺมสฺส, สงฺฆสฺสา’’ติ เอวํ พุทฺธาทีนํเยว สํสารทุกฺขนิตฺถรณตฺถํ อตฺตโน อตฺตภาวสฺส ปริจฺจชนํฯ ตปฺปรายณตา นาม ‘‘อชฺช อาทิํ กตฺวา อหํ พุทฺธปรายโณ ธมฺมปรายโณ สงฺฆปรายโณติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ ตปฺปรายณภาโวฯ สิสฺสภาวูปคมนํ นาม ‘‘อชฺช อาทิํ กตฺวา ‘อหํ พุทฺธสฺส อนฺเตวาสิโก, ธมฺมสฺส, สงฺฆสฺสา’ติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ สิสฺสภาวูปคโมฯ ปณิปาโต นาม ‘‘อชฺช อาทิํ กตฺวา ‘อหํ อภิวาทนํ ปจฺจุฏฺฐานํ อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ พุทฺธาทีนํเยว ติณฺณํ วตฺถูนํ กโรมี’ติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ พุทฺธาทีสุ ปรมนิปจฺจกาโรฯ อิเมสญฺหิ จตุนฺนํ อาการานํ อญฺญตรมฺปิ กโรนฺเตน คหิตํเยว โหติ สรณคมนํฯ

อปิจ ‘‘ภควโต อตฺตานํ ปริจฺจชามิ, ธมฺมสฺส สงฺฆสฺส อตฺตานํ ปริจฺจชามิ, ชีวิตํ ปริจฺจชามิ, ปริจฺจตฺโตเยว เม อตฺตา, ปริจฺจตฺตํเยว เม ชีวิตํ, ชีวิตปริยนฺติกํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, พุทฺโธ เม สรณํ เลณํ ตาณ’’นฺติ เอวมฺปิ อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ เวทิตพฺพํฯ ‘‘สตฺถารญฺจ วตาหํ ปสฺสามิ, ภควนฺตเมว ปสฺสามิ, สุคตญฺจ วตาหํ ปสฺสามิ, ภควนฺตเมว ปสฺสามิ, สมฺมาสมฺพุทฺธญฺจ วตาหํ ปสฺสามิ, ภควนฺตเมว ปสฺสามี’’ติ (สํ. นิ. 2.154) เอวํ มหากสฺสปตฺเถรสฺส สรณคมนํ วิย สิสฺสภาวูปคมนํ ทฏฺฐพฺพํฯ

‘‘โส อหํ วิจริสฺสามิ, คามา คามํ ปุรา ปุรํ;

นมสฺสมาโน สมฺพุทฺธํ, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมตํฯ (สํ. นิ. 1.246; สุ. นิ. 194);

‘‘เต มยํ วิจริสฺสาม, คามา คามํ นคา นคํ…เป.… สุธมฺมต’’นฺติฯ (สุ. นิ. 182) –

เอวมฺปิ อาฬวกสาตาคิรเหมวตาทีนํ สรณคมนํ วิย ตปฺปรายณตา เวทิตพฺพาฯ นนุ เจเต อาฬวกาทโย มคฺเคเนว อาคตสรณคมนา, กถํ เตสํ ตปฺปรายณตาสรณคมนํ วุตฺตนฺติ? มคฺเคนาคตสรณคมเนหิปิ ‘‘โสหํ วิจริสฺสามิ คามา คาม’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. 1.246; สุ. นิ. 194) เตหิ ตปฺปรายณตาการสฺส ปเวทิตตฺตา ตถา วุตฺตํฯ อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ อุฏฺฐายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควโต ปาทานิ มุเขน จ ปริจุมฺพติ, ปาณีหิ จ ปริสมฺพาหติ, นามญฺจ สาเวติ ‘‘พฺรหฺมายุ อหํ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ, พฺรหฺมายุ อหํ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ’’ติ (ม. นิ. 2.394) เอวมฺปิ ปณิปาโต ทฏฺฐพฺโพฯ

โส ปเนส ญาติภยาจริยทกฺขิเณยฺยตาวเสน จตุพฺพิโธ โหติฯ ตตฺถ ทกฺขิเณยฺยตาเหตุเกน ปณิปาเตน สรณคมนํ โหติ, น อิตเรหิ ญาติภยาทิวสปฺปวตฺเตหิ ตีหิ ปณิปาเตหิฯ เสฏฺฐวเสเนว หิ สรณํ คยฺหติ, เสฏฺฐวเสน ภิชฺชติ, ตสฺมา โย สากิโย วา โกลิโย วา ‘‘พุทฺโธ อมฺหากํ ญาตโก’’ติ วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํฯ โย วา ‘‘สมโณ โคตโม ราชปูชิโต มหานุภาโว อวนฺทิยมาโน อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’’ติ ภเยน วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํฯ โยปิ โพธิสตฺตกาเล ภควโต สนฺติเก กิญฺจิ อุคฺคหิตํ สรมาโน พุทฺธกาเล วา –

‘‘เอเกน โภคํ ภุญฺเชยฺย, ทฺวีหิ กมฺมํ ปโยชเย;

จตุตฺถญฺจ นิธาเปยฺย, อาปทาสุ ภวิสฺสตี’’ติฯ (ที. นิ. 3.265) –

เอวรูปิํ ทิฏฺฐธมฺมิกํ อนุสาสนิํ อุคฺคเหตฺวา ‘‘อาจริโย เม’’ติ วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํ, สมฺปรายิกํ ปน นิยฺยานิกํ วา อนุสาสนิํ ปจฺจาสีสนฺโต ทกฺขิเณยฺยปณิปาตเมว กโรติฯ โย ปน ‘‘อยํ โลเก อคฺคทกฺขิเณยฺโย’’ติ วนฺทติ, เตเนว คหิตํ โหติ สรณํฯ

เอวํ คหิตสรณสฺส จ อุปาสกสฺส วา อุปาสิกาย วา อญฺญติตฺถิเยสุ ปพฺพชิตมฺปิ ญาติํ ‘‘ญาตโก เม อย’’นฺติ วนฺทโตปิ สรณคมนํ น ภิชฺชติ, ปเคว อปพฺพชิตํฯ ตถา ราชานํ ภยวเสน วนฺทโตฯ โส หิ รฏฺฐปูชิตตฺตา อวนฺทิยมาโน อนตฺถมฺปิ กเรยฺยาติฯ ตถา ยํ กิญฺจิ สิปฺปสิกฺขาปกํ ติตฺถิยมฺปิ ‘‘อาจริโย เม อย’’นฺติ วนฺทโตปิ น ภิชฺชติฯ เอวํ สรณคมนสฺส ปเภโท เวทิตพฺโพฯ

สรณคมนกถา นิฏฺฐิตาฯ

สรณคมนผลกถา

เอตฺถ จ โลกุตฺตรสฺส สรณคมนสฺส จตฺตาริ สามญฺญผลานิ วิปากผลํ อริยมคฺคสฺเสว โลกุตฺตรสรณคมนนฺติ อธิปฺเปตตฺตาฯ สกลสฺส ปน วฏฺฏทุกฺขสฺส อนุปฺปาทนิโรโธ อานิสํสผลํฯ วุตฺตญฺเหตํ –

‘‘โย จ พุทฺธญฺจ ธมฺมญฺจ, สงฺฆญฺจ สรณํ คโต;

จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, สมฺมปฺปญฺญาย ปสฺสติฯ

‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

อริยญฺจฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํฯ

‘‘เอตํ โข สรณํ เขมํ, เอตํ สรณมุตฺตมํ;

เอตํ สรณมาคมฺม, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติฯ (ธ. ป. 190-192);

อปิจ นิจฺจโต อนุปคมนาทิวเสน เปตสฺส อานิสํสผลํ เวทิตพฺพํฯ วุตฺตญฺเหตํ –

‘‘อฏฺฐานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ทิฏฺฐิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กญฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺย, สุขโต อุปคจฺเฉยฺย, กญฺจิ ธมฺมํ อตฺตโต อุปคจฺเฉยฺย, มาตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, ปิตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, อรหนฺตํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, ปทุฏฺฐจิตฺโต ตถาคตสฺส โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย, สงฺฆํ ภินฺเทยฺย, อญฺญํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺย, เนตํ ฐานํ วิชฺชตี’’ติ (ม. นิ. 3.128; อ. นิ. 1.276)ฯ