เมนู

ตสฺมา สตฺถา อนตฺตลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต อนิจฺเจน วา ทสฺเสสิ, ทุกฺเขน วา, อนิจฺจทุกฺเขหิ วาฯ อิธ ปน ตํ อนิจฺจทุกฺเขหิ ทสฺเสสีติ เวทิตพฺพํฯ

อิมานิ ปน ลกฺขณานิ กิสฺส อมนสิการา อปฺปฏิเวธา, เกน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา, น อุปฏฺฐหนฺติ? อนิจฺจลกฺขณํ ตาว อุทยพฺพยานํ อมนสิการา อปฺปฏิเวธา, สนฺตติยา ปฏิจฺฉนฺนตฺตา, น อุปฏฺฐาติฯ ทุกฺขลกฺขณํ อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนสฺส อมนสิการา อปฺปฏิเวธา, อิริยาปเถหิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา, น อุปฏฺฐาติฯ อนตฺตลกฺขณํ นานาธาตุวินิพฺโภคสฺส อมนสิการา อปฺปฏิเวธา, ฆเนน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา, น อุปฏฺฐาติฯ อุทยพฺพยํ ปน ปริคฺคเหตฺวา สนฺตติยา วิโกปิตาย อนิจฺจลกฺขณํ ยาถาวสรสโต อุปฏฺฐาติฯ อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนํ มนสิกตฺวา อิริยาปเถ อุคฺฆาฏิเต ทุกฺขลกฺขณํ ยาถาวสรสโต อุปฏฺฐาติฯ นานาธาตุโย วินิพฺภุชิตฺวา ฆนวินิพฺโภเค กเต อนตฺตลกฺขณํ ยาถาวสรสโต อุปฏฺฐาติฯ

เอตฺถ จ อนิจฺจํ อนิจฺจลกฺขณํ, ทุกฺขํ ทุกฺขลกฺขณํ, อนตฺตา อนตฺตลกฺขณนฺติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพฯ ตตฺถ อนิจฺจนฺติ ขนฺธปญฺจกํฯ กสฺมา? อุปฺปาทวยญฺญถตฺตภาวา, หุตฺวา อภาวโต วา; อุปฺปาทวยญฺญถตฺตํ อนิจฺจลกฺขณํ, หุตฺวา อภาวสงฺขาโต อาการวิกาโร วาฯ ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ วจนโต ปน ตเทว ขนฺธปญฺจกํ ทุกฺขํฯ กสฺมา? อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนโต; อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนากาโร ทุกฺขลกฺขณํฯ ‘‘ยํ ทุกฺขํ ตํ อนตฺตา’’ติ ปน วจนโต ตเทว ขนฺธปญฺจกํ อนตฺตาฯ กสฺมา? อวสวตฺตนโต; อวสวตฺตนากาโร อนตฺตลกฺขณํฯ อิติ อญฺญเทว อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา, อญฺญานิ อนิจฺจทุกฺขานตฺตลกฺขณานิฯ ปญฺจกฺขนฺธา, ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺฐารส ธาตุโยติ อิทญฺหิ สพฺพมฺปิ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา นามฯ วุตฺตปฺปการาการวิการา อนิจฺจทุกฺขานตฺตลกฺขณานีติฯ

สงฺเขปโต ปเนตฺถ ทสายตนานิ กามาวจรานิ, ทฺเว เตภูมกานิฯ สพฺเพสุปิ สมฺมสนจาโร กถิโตติ เวทิตพฺโพฯ

สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนาฯ

2. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

[155] อภิธมฺมภาชนีเย ยถา เหฏฺฐา วิปสฺสกานํ อุปการตฺถาย ‘‘จกฺขายตนํ รูปายตน’’นฺติ ยุคลโต อายตนานิ วุตฺตานิ, ตถา อวตฺวา อชฺฌตฺติกพาหิรานํ สพฺพาการโต สภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘จกฺขายตนํ โสตายตน’’นฺติ เอวํ อชฺฌตฺติกพาหิรววตฺถานนเยน วุตฺตานิฯ

[156] เตสํ นิทฺเทสวาเร ตตฺถ กตมํ จกฺขายตนนฺติอาทีนิ เหฏฺฐา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิฯ

[167] ยํ ปเนตํ ธมฺมายตนนิทฺเทเส ‘‘ตตฺถ กตมา อสงฺขตา ธาตุ? ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย’’ติ วุตฺตํ, ตตฺรายมตฺโถ – อสงฺขตา ธาตูติ อสงฺขตสภาวํ นิพฺพานํฯ ยสฺมา ปเนตํ อาคมฺม ราคาทโย ขียนฺติ, ตสฺมา ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุตฺตํฯ อยเมตฺถ อาจริยานํ สมานตฺถกถาฯ

วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘ปาฏิเยกฺกํ นิพฺพานํ นาม นตฺถิ, กิเลสกฺขโยว นิพฺพาน’นฺติฯ ‘สุตฺตํ อาหรา’ติ จ วุตฺเต ‘‘นิพฺพานํ นิพฺพานนฺติ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, วุจฺจติ; กตมํ นุ โข, อาวุโส, นิพฺพานนฺติ? โย โข, อาวุโส, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย – อิทํ วุจฺจติ นิพฺพาน’’นฺติ เอตํ ชมฺพุขาทกสุตฺตํ อาหริตฺวา ‘อิมินา สุตฺเตน เวทิตพฺพํ ปาฏิเยกฺกํ นิพฺพานํ นาม นตฺถิ, กิเลสกฺขโยว นิพฺพาน’นฺติ อาหฯ โส วตฺตพฺโพ – ‘กิํ ปน ยถา เจตํ สุตฺตํ ตถา อตฺโถ’ติ? อทฺธา วกฺขติ – ‘อาม , นตฺถิ สุตฺตโต มุญฺจิตฺวา อตฺโถ’ติฯ ตโต วตฺตพฺโพ – ‘อิทํ ตาว เต สุตฺตํ อาภตํ; อนนฺตรสุตฺตํ อาหรา’ติฯ อนนฺตรสุตฺตํ นาม – ‘‘อรหตฺตํ อรหตฺตนฺติ, อาวุโส สาริปุตฺต, วุจฺจติ; กตมํ นุ โข, อาวุโส, อรหตฺตนฺติ? โย โข, อาวุโส, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย – อิทํ วุจฺจติ อรหตฺต’’นฺติ (สํ. นิ. 4.315) อิทํ ตสฺเสวานนฺตรํ อาภตสุตฺตํฯ

อิมสฺมิํ ปน นํ อาภเต อาหํสุ – ‘นิพฺพานํ นาม ธมฺมายตนปริยาปนฺโน ธมฺโม, อรหตฺตํ จตฺตาโร ขนฺธาฯ

นิพฺพานํ สจฺฉิกตฺวา วิหรนฺโต ธมฺมเสนาปติ นิพฺพานํ ปุจฺฉิโตปิ อรหตฺตํ ปุจฺฉิโตปิ กิเลสกฺขยเมว อาหฯ กิํ ปน นิพฺพานญฺจ อรหตฺตญฺจ เอกํ อุทาหุ นาน’นฺติ? ‘เอกํ วา โหตุ นานํ วาฯ โก เอตฺถ ตยา อติพหุํ จุณฺณีกรณํ กโรนฺเตน อตฺโถ’? ‘น ตฺวํ เอกํ นานํ ชานาสีติฯ นนุ ญาเต สาธุ โหตี’ติ เอวํ ปุนปฺปุนํ ปุจฺฉิโต วญฺเจตุํ อสกฺโกนฺโต อาห – ‘ราคาทีนํ ขีณนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา อรหตฺตํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย’ติ วุจฺจตีติฯ ตโต นํ อาหํสุ – ‘มหากมฺมํ เต กตํฯ ลญฺชํ ทตฺวาปิ ตํ วทาเปนฺโต เอตเทว วทาเปยฺยฯ ยเถว จ เต เอตํ วิภชิตฺวา กถิตํ, เอวํ อิทมฺปิ สลฺลกฺเขหิ – นิพฺพานญฺหิ อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุตฺตํฯ ตีณิปิ หิ เอตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานี’ติฯ

สเจ เอวํ วุตฺเต สญฺญตฺติํ คจฺฉติ อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ, พหุนิพฺพานตาย กาเรตพฺโพฯ กถํ? เอวํ ตาว ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘ราคกฺขโย นาม ราคสฺเสว ขโย อุทาหุ โทสโมหานมฺปิ? โทสกฺขโย นาม โทสสฺเสว ขโย อุทาหุ ราคโมหานมฺปิ? โมหกฺขโย นาม โมหสฺเสว ขโย อุทาหุ ราคโทสานมฺปี’ติ? อทฺธา วกฺขติ – ‘ราคกฺขโย นาม ราคสฺเสว ขโย, โทสกฺขโย นาม โทสสฺเสว ขโย, โมหกฺขโย นาม โมหสฺเสว ขโย’ติฯ

ตโต วตฺตพฺโพ – ‘ตว วาเท ราคกฺขโย เอกํ นิพฺพานํ โหติ, โทสกฺขโย เอกํ, โมหกฺขโย เอกํ; ติณฺณํ อกุสลมูลานํ ขเย ตีณิ นิพฺพานานิ โหนฺติ, จตุนฺนํ อุปาทานานํ ขเย จตฺตาริ, ปญฺจนฺนํ นีวรณานํ ขเย ปญฺจ, ฉนฺนํ ตณฺหากายานํ ขเย ฉ, สตฺตนฺนํ อนุสยานํ ขเย สตฺต, อฏฺฐนฺนํ มิจฺฉตฺตานํ ขเย อฏฺฐ, นวนฺนํ ตณฺหามูลกธมฺมานํ ขเย นว, ทสนฺนํ สํโยชนานํ ขเย ทส, ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสสฺส ขเย ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ นิพฺพานนฺติ พหูนิ นิพฺพานานิ โหนฺติฯ นตฺถิ ปน เต นิพฺพานานํ ปมาณนฺติฯ เอวํ ปน อคฺคเหตฺวา นิพฺพานํ อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ เอกเมว นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุจฺจติฯ ตีณิปิ เหตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานีติ คณฺห’ฯ

สเจ ปน เอวํ วุตฺเตปิ น สลฺลกฺเขติ, โอฬาริกตาย กาเรตพฺโพฯ กถํ? ‘อนฺธพาลา หิ อจฺฉทีปิมิคมกฺกฏาทโยปิ กิเลสปริยุฏฺฐิตา วตฺถุํ ปฏิเสวนฺติฯ อถ เนสํ ปฏิเสวนปริยนฺเต กิเลโส วูปสมฺมติฯ ตว วาเท อจฺฉทีปิมิคมกฺกฏาทโย นิพฺพานปฺปตฺตา นาม โหนฺติฯ โอฬาริกํ วต เต นิพฺพานํ ถูลํ, กณฺเณหิ ปิฬนฺธิตุํ น สกฺกาติฯ เอวํ ปน อคฺคเหตฺวา นิพฺพานํ อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ เอกเมว นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุจฺจติฯ ตีณิปิ เหตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานีติ คณฺห’ฯ

สเจ ปน เอวํ วุตฺเตปิ น สลฺลกฺเขติ, โคตฺรภุนาปิ กาเรตพฺโพฯ กถํ? เอวํ ตาว ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘ตฺวํ โคตฺรภุ นาม อตฺถีติ วเทสี’ติ? ‘อาม วทามี’ติฯ ‘โคตฺรภุกฺขเณ กิเลสา ขีณา, ขียนฺติ, ขียิสฺสนฺตี’ติ? น ขีณา, น ขียนฺติ; อปิจ โข ขียิสฺสนฺตีติฯ ‘โคตฺรภุ ปน กิํ อารมฺมณํ กโรตี’ติ? ‘นิพฺพานํ’ฯ ‘ตว โคตฺรภุกฺขเณ กิเลสา น ขีณา, น ขียนฺติ; อถ โข ขียิสฺสนฺติฯ ตฺวํ อขีเณสุเยว กิเลเสสุ กิเลสกฺขยํ นิพฺพานํ ปญฺญเปสิ, อปฺปหีเนสุ อนุสเยสุ อนุสยปฺปหานํ นิพฺพานํ ปญฺญเปสิฯ ตํ เต น สเมติฯ เอวํ ปน อคฺคเหตฺวา นิพฺพานํ อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ เอกเมว นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุจฺจติฯ ตีณิปิ เหตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานีติ คณฺห’ฯ

สเจ ปน เอวํ วุตฺเตปิ น สลฺลกฺเขติ, มคฺเคน กาเรตพฺโพฯ กถํ? เอวํ ตาว ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘ตฺวํ มคฺคํ นาม วเทสี’ติ? ‘อาม วเทมี’ติฯ ‘มคฺคกฺขเณ กิเลสา ขีณา, ขียนฺติ, ขิยิสฺสนฺตี’ติ? ชานมาโน วกฺขติ – ‘ขีณาติ วา ขียิสฺสนฺตีติ วา วตฺตุํ น วฏฺฏติ, ขียนฺตีติ วตฺตุํ วฏฺฏตี’ติฯ ‘ยทิ เอวํ, มคฺคสฺส กิเลสกฺขยํ นิพฺพานํ กตมํ? มคฺเคน ขียนกกิเลสา กตเม? มคฺโค กตมํ กิเลสกฺขยํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา กตเม กิเลเส เขเปติ? ตสฺมา มา เอวํ คณฺหฯ นิพฺพานํ ปน อาคมฺม ราคาทโย ขีณาติ เอกเมว นิพฺพานํ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วุจฺจติฯ ตีณิปิ เหตานิ นิพฺพานสฺเสว อธิวจนานี’ติฯ

เอวํ วุตฺเต เอวมาห – ‘ตฺวํ อาคมฺม อาคมฺมาติ วเทสี’ติ? ‘อาม วเทมี’ติฯ

‘อาคมฺม นามาติ อิทํ เต กุโต ลทฺธ’นฺติ? ‘สุตฺตโต ลทฺธ’นฺติ ฯ ‘อาหร สุตฺต’นฺติฯ ‘‘เอวํ อวิชฺชา จ ตณฺหา จ ตํ อาคมฺม, ตมฺหิ ขีณา, ตมฺหิ ภคฺคา, น จ กิญฺจิ กทาจี’’ติฯ เอวํ วุตฺเต ปรวาที ตุณฺหีภาวํ อาปนฺโนติฯ

อิธาปิ ทสายตนานิ กามาวจรานิ, ทฺเว ปน จตุภูมกานิ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานีติ เวทิตพฺพานิฯ

อภิธมฺมภาชนียวณฺณนาฯ

3. ปญฺหาปุจฺฉกวณฺณนา

[168] อิธาปิ ปญฺหาปุจฺฉเก ยํ ลพฺภติ ยญฺจ น ลพฺภติ, ตํ สพฺพํ ปุจฺฉิตฺวา ลพฺภมานวเสเนว วิสฺสชฺชนํ วุตฺตํ; น เกวลญฺจ อิธ, สพฺเพสุปิ ปญฺหาปุจฺฉเกสุ เอเสว นโยฯ อิธ ปน ทสนฺนํ อายตนานํ รูปภาเวน อพฺยากตตา เวทิตพฺพาฯ ทฺวินฺนํ อายตนานํ ขนฺธวิภงฺเค จตุนฺนํ ขนฺธานํ วิย กุสลาทิภาโว เวทิตพฺโพฯ เกวลญฺหิ จตฺตาโร ขนฺธา สปฺปจฺจยาว สงฺขตาว ธมฺมายตนํ ปน ‘‘สิยา อปฺปจฺจยํ, สิยา อสงฺขต’’นฺติ อาคตํฯ อารมฺมณตฺติเกสุ จ อนารมฺมณํ สุขุมรูปสงฺขาตํ ธมฺมายตนํ น-วตฺตพฺพโกฏฺฐาสํ ภชติฯ ตญฺจ โข อนารมฺมณตฺตา น ปริตฺตาทิภาเวน นวตฺตพฺพธมฺมารมฺมณตฺตาติ อยเมตฺถ วิเสโสฯ เสสํ ตาทิสเมวฯ อิธาปิ หิ จตฺตาโร ขนฺธา วิย ทฺวายตนา ปญฺจปณฺณาส กามาวจรธมฺเม อารพฺภ รชฺชนฺตสฺส ทุสฺสนฺตสฺส มุยฺหนฺตสฺส สํวรนฺตสฺส สมฺมสนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส จ ปริตฺตารมฺมณาติ สพฺพํ ขนฺเธสุ วุตฺตสทิสเมวาติฯ

สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺฐกถาย

อายตนวิภงฺควณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

3. ธาตุวิภงฺโค

1. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา