เมนู

ปฐมพลนิทฺเทโส

[809] ทสวิเธน ญาณวตฺถุนิทฺเทเส อฏฺฐานนฺติ เหตุปฏิกฺเขโปฯ อนวกาโสติ ปจฺจยปฏิกฺเขโปฯ อุภเยนาปิ การณเมว ปฏิกฺขิปติฯ การณญฺหิ ตทายตฺตวุตฺติตาย อตฺตโน ผลสฺส ฐานนฺติ จ อวกาโสติ จ วุจฺจติฯ นฺติ เยน การเณนฯ ทิฏฺฐิสมฺปนฺโนติ มคฺคทิฏฺฐิยา สมฺปนฺโน โสตาปนฺโน อริยสาวโกฯ กญฺจิ สงฺขารนฺติ จตุภูมเกสุ สงฺขตสงฺขาเรสุ กญฺจิ เอกํ สงฺขารมฺปิฯ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺยาติ นิจฺโจติ คณฺเหยฺยฯ เนตํ ฐานํ วิชฺชตีติ เอตํ การณํ นตฺถิ, น อุปลพฺภติฯ ยํ ปุถุชฺชโนติ เยน การเณน ปุถุชฺชโนฯ ฐานเมตํ วิชฺชตีติ เอตํ การณํ อตฺถิ; สสฺสตทิฏฺฐิยา หิ โส เตภูมเกสุ สงฺขาเรสุ กญฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต คณฺเหยฺยาติ อตฺโถฯ จตุตฺถภูมกสงฺขาโร ปน เตชุสฺสทตฺตา ทิวสํ สนฺตตฺโต อโยคุโฬ วิย มกฺขิกานํ ทิฏฺฐิยา วา อญฺเญสํ วา อกุสลานํ อารมฺมณํ น โหติฯ อิมินา นเยน กญฺจิ สงฺขารํ สุขโตติอาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ สุขโต อุปคจฺเฉยฺยาติ ‘‘เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรมฺมรณา’’ติ (ม. นิ. 3.21) เอวํ อตฺตทิฏฺฐิวเสน สุขโต คาหํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ ทิฏฺฐิวิปฺปยุตฺตจิตฺเตน ปน อริยสาวโก ปริฬาหาภิภูโต ปริฬาหวูปสมตฺถํ, มตฺตหตฺถีปริตาสิโต วิย, สุจิกาโม โปกฺขพฺราหฺมโณ คูถํ กญฺจิ สงฺขารํ สุขโต อุปคจฺฉติฯ อตฺตวาเท กสิณาทิปณฺณตฺติสงฺคหตฺถํ สงฺขารนฺติ อวตฺวา กญฺจิ ธมฺมนฺติ วุตฺตํฯ อิธาปิ อริยสาวกสฺส จตุภูมกวเสน ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ, ปุถุชฺชนสฺส เตภูมกวเสน; สพฺพวาเรสุ วา อริยสาวกสฺสาปิ เตภูมกวเสเนว ปริจฺเฉโท วฏฺฏติฯ ยํ ยญฺหิ ปุถุชฺชโน คณฺหาติ, ตโต ตโต อริยสาวโก คาหํ วินิเวเฐติฯ ปุถุชฺชโน หิ ยํ ยํ นิจฺจํ สุขํ อตฺตาติ คณฺหาติ, ตํ ตํ อริยสาวโก อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ คณฺหนฺโต คาหํ วินิเวเฐติฯ

มาตรนฺติอาทีสุ ชนิกาว มาตาฯ มนุสฺสภูโตว ขีณาสโว อรหาติ อธิปฺเปโตฯ กิํ ปน อริยสาวโก อญฺญํ ชีวิตา โวโรเปยฺยาติ? เอตมฺปิ อฏฺฐานํฯ สเจปิ ภวนฺตรคตํ อริยสาวกํ อตฺตโน อริยสาวกภาวํ อชานนฺตมฺปิ โกจิ เอวํ วเทยฺย – ‘อิมํ กุนฺถกิปิลฺลิกํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา สกลจกฺกวาฬคพฺเภ จกฺกวตฺติรชฺชํ ปฏิปชฺชาหี’ติ, เนว โส ตํ ชีวิตา โวโรเปยฺยฯ อถ วาปิ นํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘สเจ อิมํ น ฆาเตสฺสสิ, สีสํ เต ฉินฺทิสฺสามา’ติ, สีสเมวสฺส ฉินฺเทยฺยุํ, เนว โส ตํ ฆาเตยฺยฯ ปุถุชฺชนภาวสฺส ปน มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถํ อริยสาวกสฺส จ พลทีปนตฺถเมตํ วุตฺตํฯ อยญฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สาวชฺโช ปุถุชฺชนภาโว, ยตฺร หิ นาม ปุถุชฺชโน มาตุฆาตาทีนิปิ อานนฺตริยานิ กริสฺสติฯ มหาพโล อริยสาวโก; โส เอตานิ กมฺมานิ น กโรตีติฯ

ปทุฏฺเฐน จิตฺเตนาติ โทสสมฺปยุตฺเตน วธกจิตฺเตนฯ โลหิตํ อุปฺปาเทยฺยาติ ชีวมานกสรีเร ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ อุปฺปาเทยฺยฯ สงฺฆํ ภินฺเทยฺยาติ สมานสํวาสกํ สมานสีมายํ ฐิตํ ปญฺจหิ การเณหิ สงฺฆํ ภินฺเทยฺย, วุตฺตญฺเหตํ – ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อากาเรหิ สงฺโฆ ภิชฺชติ – กมฺเมน, อุทฺเทเสน, โวหรนฺโต, อนุสฺสาวเนน, สลากคฺคาเหนา’’ติ (ปริ. 458)ฯ

ตตฺถ ‘กมฺเมนา’ติ อปโลกนาทีสุ จตูสุ กมฺเมสุ อญฺญตเรน กมฺเมนฯ ‘อุทฺเทเสนา’ติ ปญฺจสุ ปาติโมกฺขุทฺเทเสสุ อญฺญตเรน อุทฺเทเสนฯ ‘โวหรนฺโต’ติ กถยนฺโต, ตาหิ ตาหิ อุปฺปตฺตีหิ ‘อธมฺมํ ธมฺโม’ติอาทีนิ อฏฺฐารส เภทกรวตฺถูนิ ทีเปนฺโตฯ ‘อนุสฺสาวเนนา’ติ ‘นนุ ตุมฺเห ชานาถ มยฺหํ อุจฺจากุลา ปพฺพชิตภาวํ พหุสฺสุตภาวญฺจ! มาทิโส นาม อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ คาเหยฺยาติ จิตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตุํ ตุมฺหากํ น ยุตฺตํฯ

กิํ มยฺหํ อวีจิ นีลุปฺปลวนํ วิย สีตโล? กิมหํ อปายโต น ภายามี’ติอาทินา นเยน กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวา อนุสฺสาวเนน ‘สลากคฺคาเหนา’ติ เอวํ อนุสฺสาเวตฺวา เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อนิวตฺตนธมฺเม กตฺวา ‘‘คณฺหถ อิมํ สลาก’’นฺติ สลากคฺคาเหนฯ เอตฺถ จ กมฺมเมว อุทฺเทโส วา ปมาณํ โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหา ปน ปุพฺพภาคาฯ อฏฺฐารสวตฺถุทีปนวเสน หิ โวหรนฺเตน ตตฺถ รุจิชนนตฺถํ อนุสฺสาเวตฺวา สลากาย คาหิตายปิ อภินฺโนว โหติ สงฺโฆฯ ยทา ปน เอวํ จตฺตาโร วา อติเรกา วา สลากํ คาเหตฺวา อาเวณิกํ กมฺมํ วา อุทฺเทสํ วา กโรนฺติ, ตทา สงฺโฆ ภินฺโน นาม โหติฯ

เอวํ ทิฏฺฐิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล สงฺฆํ ภินฺเทยฺยาติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ เอตฺตาวตา มาตุฆาตาทีนิ ปญฺจ อานนฺตริยกมฺมานิ ทสฺสิตานิ โหนฺติ, ยานิ ปุถุชฺชโน กโรติ, น อริยสาวโกฯ เตสํ อาวิภาวตฺถํ –

กมฺมโต ทฺวารโต เจว, กปฺปฏฺฐิติยโต ตถา;

ปากสาธารณาทีหิ, วิญฺญาตพฺโพ วินิจฺฉโยฯ

ตตฺถ ‘กมฺมโต’ ตาว – เอตฺถ หิ มนุสฺสภูตสฺเสว มนุสฺสภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา อปิ ปริวตฺตลิงฺคํ ชีวิตา โวโรเปนฺตสฺส กมฺมํ อานนฺตริยํ โหติฯ ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิสฺสามี’ติ สกลจกฺกวาฬํ มหาเจติยปฺปมาเณหิ กญฺจนถูเปหิ ปูเรตฺวาปิ, สกลจกฺกวาฬํ ปูเรตฺวา นิสินฺนภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวาปิ, พุทฺธสฺส ภควโต สงฺฆาฏิกณฺณํ อมุญฺจิตฺวาว วิจริตฺวาปิ, กายสฺส เภทา นิรยเมว อุปปชฺชติฯ โย ปน สยํ มนุสฺสภูโต ติรจฺฉานภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา, สยํ วา ติรจฺฉานภูโต มนุสฺสภูตํ, ติรจฺฉานภูโตเยว วา ติรจฺฉานภูตํ ชีวิตา โวโรเปติ, ตสฺส กมฺมํ อานนฺตริยํ น โหติ, กมฺมํ ปน ภาริยํ โหติ, อานนฺตริยํ อาหจฺเจว ติฏฺฐติฯ มนุสฺสชาติกานํ ปน วเสน อยํ ปญฺโห กถิโตฯ

เอตฺถ เอฬกจตุกฺกํ, สงฺคามจตุกฺกํ, โจรจตุกฺกญฺจ กเถตพฺพํฯ ‘เอฬกํ มาเรมี’ติ อภิสนฺธินาปิ หิ เอฬกฏฺฐาเน ฐิตํ มนุสฺโส มนุสฺสภูตํ มาตรํ วา ปิตรํ วา มาเรนฺโต อานนฺตริยํ ผุสติฯ เอฬกาภิสนฺธินา ปน มาตาปิติอภิสนฺธินา วา เอฬกํ มาเรนฺโต อานนฺตริยํ น ผุสติฯ มาตาปิติอภิสนฺธินา มาตาปิตโร มาเรนฺโต ผุสเตวฯ

เอส นโย อิตรสฺมิมฺปิ จตุกฺกทฺวเยฯ ยถา จ มาตาปิตูสุ, เอวํ อรหนฺเตปิ เอตานิ จตุกฺกานิ เวทิตพฺพานิฯ มนุสฺสอรหนฺตเมว จ มาเรตฺวา อานนฺตริยํ ผุสติ, น ยกฺขภูตํ; กมฺมํ ปน ภาริยํ อานนฺตริยสทิสเมวฯ มนุสฺสอรหนฺตสฺส จ ปุถุชฺชนกาเลเยว สตฺถปฺปหาเร วา วิเส วา ทินฺเนปิ ยทิ โส อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนว มรติ, อรหนฺตฆาโต โหติเยวฯ ยํ ปน ปุถุชฺชนกาเล ทินฺนํ ทานํ อรหตฺตํ ปตฺวา ปริภุญฺชติ, ปุถุชฺชนสฺเสว ตํ ทินฺนํ โหติฯ เสสอริยปุคฺคเล มาเรนฺตสฺส อานนฺตริยํ นตฺถิ, กมฺมํ ปน ภาริยํ อานนฺตริยสทิสเมวฯ

โลหิตุปฺปาเท ตถาคตสฺส อเภชฺชกายตาย ปรูปกฺกเมน จมฺมจฺเฉทํ กตฺวา โลหิตปคฺฆรณํ นาม นตฺถิฯ สรีรสฺส ปน อนฺโตเยว เอกสฺมิํ ฐาเน โลหิตํ สโมสรติฯ เทวทตฺเตน ปฏิวิทฺธสิลาโต ภิชฺชิตฺวา คตา สกลิกาปิ ตถาคตสฺส ปาทนฺตํ ปหริฯ ผรสุนา ปหโฏ วิย ปาโท อนฺโตโลหิโตเยว อโหสิฯ ตถา กโรนฺตสฺส อานนฺตริยํ โหติฯ ชีวโก ปน ตถาคตสฺส รุจิยา สตฺถเกน จมฺมํ ฉินฺทิตฺวา ตมฺหา ฐานา ทุฏฺฐโลหิตํ นีหริตฺวา ผาสุกมกาสิฯ ตถา กโรนฺตสฺส ปุญฺญกมฺมเมว โหติฯ

อถ เย จ ปรินิพฺพุเต ตถาคเต เจติยํ ภินฺทนฺติ, โพธิํ ฉินฺทนฺติ, ธาตุมฺหิ อุปกฺกมนฺติ, เตสํ กิํ โหตีติ? ภาริยํ กมฺมํ โหติ อานนฺตริยสทิสํฯ สธาตุกํ ปน ถูปํ วา ปฏิมํ วา พาธยมานํ โพธิสาขญฺจ ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติฯ สเจปิ ตตฺถ นิลีนา สกุณา เจติเย วจฺจํ ปาเตนฺติ, ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติเยวฯ ปริโภคเจติยโต หิ สรีรเจติยํ มหนฺตตรํฯ เจติยวตฺถุํ ภินฺทิตฺวา คจฺฉนฺตํ โพธิมูลมฺปิ ฉินฺทิตฺวา หริตุํ วฏฺฏติฯ ยา ปน โพธิสาขา โพธิฆรํ พาธติ, ตํ เคหรกฺขณตฺถํ ฉินฺทิตุํ น ลพฺภติฯ โพธิอตฺถญฺหิ เคหํ, น เคหตฺถาย โพธิฯ อาสนฆเรปิ เอเสว นโยฯ ยสฺมิํ ปน อาสนฆเร ธาตุ นิหิตา โหติ, ตสฺส รกฺขณตฺถาย โพธิสาขํ ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติฯ โพธิชคฺคนตฺถํ โอโชหรณสาขํ วา ปูติฏฺฐานํ วา ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติเยว; สรีรปฏิชคฺคเน วิย ปุญฺญมฺปิ โหติฯ

สงฺฆเภเท สีมฏฺฐกสงฺเฆ อสนฺนิปติเต วิสุํ ปริสํ คเหตฺวา กตโวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหสฺส กมฺมํ วา กโรนฺตสฺส อุทฺเทสํ วา อุทฺทิสนฺตสฺส เภโท จ โหติ อานนฺตริยกมฺมญฺจฯ สมคฺคสญฺญาย ปน วฏฺฏติฯ สมคฺคสญฺญาย หิ กโรนฺตสฺส เนว เภโท โหติ น อานนฺตริยกมฺมํฯ ตถา นวโต อูนปริสายํฯ สพฺพนฺติเมน ปน ปริจฺเฉเทน นวนฺนํ ชนานํ โย สงฺฆํ ภินฺทติ, ตสฺส อานนฺตริยกมฺมํ โหติฯ อนุวตฺตกานํ อธมฺมวาทีนํ มหาสาวชฺชํ กมฺมํ; ธมฺมวาทิโน อนวชฺชาฯ ตตฺถ นวนฺนเมว สงฺฆเภเท อิทํ สุตฺตํ – ‘‘เอกโต, อุปาลิ, จตฺตาโร โหนฺติ, เอกโต จตฺตาโร, นวโม อนุสฺสาเวติ สลากํ คาเหติ – ‘อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสนํ, อิทํ คณฺหถ, อิทํ โรเจถา’ติฯ เอวํ โข, อุปาลิ, สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จฯ นวนฺนํ วา, อุปาลิ, อติเรกนวนฺนํ วา สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จา’’ติ (จูฬว. 351)ฯ

เอเตสุ จ ปน ปญฺจสุ สงฺฆเภโท วจีกมฺมํ, เสสานิ กายกมฺมานีติฯ เอวํ กมฺมโตปิ วิญฺญาตพฺโพ วินิจฺฉโยฯ

‘ทฺวารโต’ติ สพฺพาเนว เจตานิ กายทฺวารโตปิ วจีทฺวารโตปิ สมุฏฺฐหนฺติฯ ปุริมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ อาณตฺติกวิชฺชามยปโยควเสน วจีทฺวารโต สมุฏฺฐหิตฺวาปิ กายทฺวารเมว ปูเรนฺติฯ สงฺฆเภโท หตฺถมุทฺทาย เภทํ กโรนฺตสฺส กายทฺวารโต สมุฏฺฐหิตฺวาปิ วจีทฺวารเมว ปูเรตีติฯ เอวเมตฺถ ทฺวารโตปิ วิญฺญาตพฺโพ วินิจฺฉโยฯ

‘กปฺปฏฺฐิติยโต’ติ สงฺฆเภโทเยว เจตฺถ กปฺปฏฺฐิติโยฯ สณฺฐหนฺเต หิ กปฺเป กปฺปเวมชฺเฌ วา สงฺฆเภทํ กตฺวา กปฺปวินาเสเยว มุจฺจติฯ สเจปิ หิ ‘สฺเว กปฺโป วินสฺสิสฺสตี’ติ อชฺช สงฺฆเภทํ กโรติ, สฺเวเยว มุจฺจติ, เอกทิวสเมว นิรเย ปจฺจติฯ เอวํ กรณํ ปน นตฺถิฯ เสสานิ จตฺตาริ กมฺมานิ อานนฺตริยาเนว โหนฺติ, น กปฺปฏฺฐิติยานีติฯ เอวเมตฺถ กปฺปฏฺฐิติยโตปิ วิญฺญาตพฺโพ วินิจฺฉโยฯ

‘ปากโต’ติ เยน จ ปญฺจเปตานิ กมฺมานิ กตานิ โหนฺติ, ตสฺส สงฺฆเภโทเยว ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติฯ เสสานิ ‘‘อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติ เอวมาทีสุ สงฺขํ คจฺฉนฺติฯ

สงฺฆเภทาภาเว โลหิตุปฺปาโท, ตทภาเว อรหนฺตฆาโต, ตทภาเว สเจ ปิตา สีลวา โหติ, มาตา ทุสฺสีลา โน วา ตถา สีลวตี, ปิตุฆาโต ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติฯ สเจ มาตา มาตุฆาโตฯ ทฺวีสุปิ สีเลน วา ทุสฺสีเลน วา สมาเนสุ มาตุฆาโตว ปฏิสนฺธิวเสน วิปจฺจติ; มาตา หิ ทุกฺกรการิณี พหูปการา จ ปุตฺตานนฺติฯ เอวเมตฺถ ปากโตปิ วิญฺญาตพฺโพ วินิจฺฉโยฯ

‘สาธารณาทีหี’ติ ปุริมานิ จตฺตาริ สพฺเพสมฺปิ คหฏฺฐปพฺพชิตานํ สาธารณานิฯ สงฺฆเภโท ปน ‘‘น โข, อุปาลิ, ภิกฺขุนี สงฺฆํ ภินฺทติ, น สิกฺขมานา, น สามเณโร, น สามเณรี, น อุปาสโก, น อุปาสิกา สงฺฆํ ภินฺทติฯ ภิกฺขุ โข, อุปาลิ, ปกตตฺโต สมานสํวาสโก สมานสีมายํ ฐิโต สงฺฆํ ภินฺทตี’’ติ (จูฬว. 351) วจนโต วุตฺตปฺปการสฺส ภิกฺขุโนว โหติ, น อญฺญสฺส; ตสฺมา อสาธารโณฯ อาทิสทฺเทน สพฺเพเปเต ทุกฺขเวทนาสหคตา โทสโมหสมฺปยุตฺตา จาติ เอวเมตฺถ สาธารณาทีหิปิ วิญฺญาตพฺโพ วินิจฺฉโยฯ

อญฺญํ สตฺถารนฺติ ‘อยํ เม สตฺถา สตฺถุกิจฺจํ กาตุํ สมตฺโถ’ติ ภวนฺตเรปิ อญฺญํ ติตฺถกรํ ‘อยํ เม สตฺถา’ติ เอวํ คณฺเหยฺย – เนตํ ฐานํ วิชฺชตีติ อตฺโถฯ อฏฺฐมํ ภวํ นิพฺพตฺเตยฺยาติ สพฺพมนฺทปญฺโญปิ สตฺตมํ ภวํ อติกฺกมิตฺวา อฏฺฐมํ นิพฺพตฺเตยฺย – เนตํ ฐานํ วิชฺชติ ฯ อุตฺตมโกฏิยา หิ สตฺตมํ ภวํ สนฺธาเยเวส ‘‘นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ วุตฺโตฯ กิํ ปน ตํ นิยาเมติ? กิํ ปุพฺพเหตุ นิยาเมติ อุทาหุ ปฏิลทฺธมคฺโค อุทาหุ อุปริ ตโย มคฺคาติ? สมฺมาสมฺพุทฺเธน คหิตํ นามมตฺตเมตํฯ ปุคฺคโล ปน นิยโต นาม นตฺถิฯ ‘‘ปุพฺพเหตุ นิยาเมตี’’ติ วุตฺเต หิ อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ อุปนิสฺสโย วุตฺโต โหติ, ปฐมมคฺคสฺส อุปนิสฺสยาภาโว อาปชฺชติฯ อิจฺจสฺส อเหตุ อปฺปจฺจยา นิพฺพตฺติํ ปาปุณาติฯ ‘‘ปฏิลทฺธมคฺโค นิยาเมตี’’ติ วุตฺเต อุปริ ตโย มคฺคา อกิจฺจกา โหนฺติ, ปฐมมคฺโคว สกิจฺจโก, ปฐมมคฺเคเนว กิเลเส เขเปตฺวา ปรินิพฺพายิตพฺพํ โหติฯ ‘‘อุปริ ตโย มคฺคา นิยาเมนฺตี’’ติ วุตฺเต ปฐมมคฺโค อกิจฺจโก โหติ, อุปริ ตโย มคฺคาว สกิจฺจกา, ปฐมมคฺคํ อนิพฺพตฺเตตฺวา อุปริ ตโย มคฺคา นิพฺพตฺเตตพฺพา โหนฺติ, ปฐมมคฺเคน จ อนุปฺปชฺชิตฺวาว กิเลสา เขเปตพฺพา โหนฺติฯ ตสฺมา น อญฺโญ โกจิ นิยาเมติ, อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ วิปสฺสนาว นิยาเมติฯ

สเจ หิ เตสํ วิปสฺสนา ติกฺขา สูรา หุตฺวา วหติ, เอกํเยว ภวํ นิพฺพตฺเตตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพาติฯ ตโต มนฺทตรปญฺโญ ทุติเย วา ตติเย วา จตุตฺเถ วา ปญฺจเม วา ฉฏฺเฐ วา ภเว อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพาติฯ สพฺพมนฺทปญฺโญ สตฺตมํ ภวํ นิพฺพตฺเตตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อฏฺฐเม ภเว ปฏิสนฺธิ น โหติฯ อิติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน คหิตํ นามมตฺตเมตํฯ สตฺถา หิ พุทฺธตุลาย ตุเลตฺวา สพฺพญฺญุตญาเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘อยํ ปุคฺคโล สพฺพมหาปญฺโญ ติกฺขวิปสฺสโก เอกเมว ภวํ นิพฺพตฺเตตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิสฺสตี’ติ ‘เอกพีชี’ติ นามํ อกาสิ; ‘อยํ ปุคฺคโล ทุติยํ, ตติยํ, จตุตฺถํ, ปญฺจมํ, ฉฏฺฐํ ภวํ นิพฺพตฺเตตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิสฺสตี’ติ ‘โกลํโกโล’ติ นามํ อกาสิ; ‘อยํ ปุคฺคโล สตฺตมํ ภวํ นิพฺพตฺเตตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิสฺสตี’ติ ‘สตฺตกฺขตฺตุปรโม’ติ นามํ อกาสิฯ

โกจิ ปน ปุคฺคโล สตฺตนฺนํ ภวานํ นิยโต นาม นตฺถิฯ อริยสาวโก ปน เยน เกนจิปิ อากาเรน มนฺทปญฺโญ สมาโน อฏฺฐมํ ภวํ อปฺปตฺวา อนฺตราว ปรินิพฺพาติฯ สกฺกสทิโสปิ วฏฺฏาภิรโต สตฺตมํเยว ภวํ คจฺฉติฯ สตฺตเม ภเว สพฺพกาเรน ปมาทวิหาริโนปิ วิปสฺสนาญาณํ ปริปากํ คจฺฉติฯ อปฺปมตฺตเกปิ อารมฺมเณ นิพฺพินฺทิตฺวา นิพฺพุติํ ปาปุณาติฯ สเจปิ หิสฺส สตฺตเม ภเว นิทฺทํ วา โอกฺกมนฺตสฺส, ปรมฺมุขํ วา คจฺฉนฺตสฺส, ปจฺฉโต ฐตฺวา ติขิเณน อสินา โกจิเทว สีสํ ปาเตยฺย, อุทเก วา โอสาเทตฺวา มาเรยฺย, อสนิ วา ปนสฺส สีเส ปเตยฺย, เอวรูเปปิ กาเล สปฺปฏิสนฺธิกา กาลํกิริยา นาม น โหติ, อรหตฺตํ ปตฺวาว ปรินิพฺพาติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อฏฺฐมํ ภวํ นิพฺพตฺเตยฺย – เนตํ ฐานํ วิชฺชตี’’ติฯ

เอกิสฺสา โลกธาตุยาติ ทสสหสฺสิโลกธาตุยาฯ ตีณิ หิ เขตฺตานิ – ชาติเขตฺตํ, อาณาเขตฺตํ, วิสยกฺเขตฺตนฺติฯ ตตฺถ ‘ชาติกฺเขตฺตํ’ นาม ทสสหสฺสิโลกธาตุฯ สา หิ ตถาคตสฺส มาตุกุจฺฉิโอกฺกมนกาเล, นิกฺขมนกาเล, สมฺโพธิกาเล, ธมฺมจกฺกปวตฺตเน, อายุสงฺขารโวสฺสชฺชเน, ปรินิพฺพาเน จ กมฺปติฯ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬํ ปน ‘อาณาเขตฺตํ’ นามฯ อาฏานาฏิยโมรปริตฺตธชคฺคปริตฺตรตนปริตฺตาทีนญฺหิ เอตฺถ อาณา วตฺตติฯ ‘วิสยเขตฺตสฺส’ ปน ปริมาณํ นตฺถิฯ

พุทฺธานญฺหิ ‘‘ยาวตกํ ญาณํ ตาวตกํ เญยฺยํ, ยาวตกํ เญยฺยํ ตาวตกํ ญาณํ , ญาณปริยนฺติกํ เญยฺยํ, เญยฺยปริยนฺติกํ ญาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. 3.5) วจนโต อวิสโย นาม นตฺถิฯ

อิเมสุ ปน ตีสุ เขตฺเตสุ, ฐเปตฺวา อิมํ จกฺกวาฬํ, อญฺญสฺมิํ จกฺกวาเฬ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตีติ สุตฺตํ นตฺถิ, น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถิฯ ตีณิ ปิฏกานิ – วินยปิฏกํ, สุตฺตนฺตปิฏกํ, อภิธมฺมปิฏกนฺติฯ ติสฺโส สงฺคีติโย – มหากสฺสปตฺเถรสฺส สงฺคีติ, ยสตฺเถรสฺส สงฺคีติ, โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส สงฺคีตีติฯ อิมา ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺเห เตปิฏเก พุทฺธวจเน อิมํ จกฺกวาฬํ มุญฺจิตฺวา อญฺญตฺถ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตีติ สุตฺตํ นตฺถิ, นุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถิฯ

อปุพฺพํ อจริมนฺติ อปุเร อปจฺฉา; เอกโต นุปฺปชฺชนฺติ, ปุเร วา ปจฺฉา วา อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ โหติฯ ตตฺถ โพธิปลฺลงฺเก ‘‘โพธิํ อปฺปตฺวา น อุฏฺฐหิสฺสามี’’ติ นิสินฺนกาลโต ปฏฺฐาย ยาว มาตุกุจฺฉิสฺมิํ ปฏิสนฺธิคฺคหณํ ตาว ปุพฺเพนฺติ น เวทิตพฺพํฯ โพธิสตฺตสฺส หิ ปฏิสนฺธิคฺคหเณ ทสสหสฺสจกฺกวาฬกมฺปเนเนว ชาติกฺเขตฺตปริคฺคโห กโต, อญฺญสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ นิวาริตา โหติฯ ปรินิพฺพานโต ปฏฺฐาย จ ยาว สาสปมตฺตาปิ ธาตุโย ติฏฺฐนฺติ ตาว ปจฺฉาติ น เวทิตพฺพํฯ ธาตูสุ หิ ฐิตาสุ พุทฺธา ฐิตาว โหนฺติฯ ตสฺมา เอตฺถนฺตเร อญฺญสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ นิวาริตาว โหติ, ธาตุปรินิพฺพาเน ปน ชาเต อญฺญสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ น นิวาริตาฯ

ตีณิ หิ อนฺตรธานานิ นาม – ปริยตฺติอนฺตรธานํ, ปฏิเวธอนฺตรธานํ, ปฏิปตฺติอนฺตรธานนฺติฯ ตตฺถ ‘ปริยตฺตี’ติ ตีณิ ปิฏกานิ; ‘ปฏิเวโธ’ติ สจฺจปฏิเวโธ; ‘ปฏิปตฺตี’ติ ปฏิปทาฯ ตตฺถ ปฏิเวโธ จ ปฏิปตฺติ จ โหติปิ น โหติปิฯ เอกสฺมิญฺหิ กาเล ปฏิเวธกรา ภิกฺขู พหู โหนฺติ; ‘เอส ภิกฺขุ ปุถุชฺชโน’ติ องฺคุลิํ ปสาเรตฺวา ทสฺเสตพฺโพ โหติฯ อิมสฺมิํเยว ทีเป เอกวารํ กิร ปุถุชฺชนภิกฺขุ นาม นาโหสิฯ ปฏิปตฺติปูรกาปิ กทาจิ พหู โหนฺติ, กทาจิ อปฺปาฯ อิติ ปฏิเวโธ จ ปฏิปตฺติ จ โหติปิ น โหติปิฯ

สาสนฏฺฐิติยา ปน ปริยตฺติเยว ปมาณํฯ ปณฺฑิโต หิ เตปิฏกํ สุตฺวา ทฺเวปิ ปูเรติฯ

ยถา อมฺหากํ โพธิสตฺโต อาฬารสฺส สนฺติเก ปญฺจาภิญฺญา สตฺต จ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา เนวสญฺญานาสญฺญายตนสมาปตฺติยา ปริกมฺมํ ปุจฺฉิ, โส ‘น ชานามี’ติ อาห; ตโต อุทกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อธิคตวิเสสํ สํสนฺเทตฺวา เนวสญฺญานาสญฺญายตนสฺส ปริกมฺมํ ปุจฺฉิ; โส อาจิกฺขิ; ตสฺส วจนสมนนฺตรเมว มหาสตฺโต ตํ สมฺปาเทสิ; เอวเมว ปญฺญวา ภิกฺขุ ปริยตฺติํ สุตฺวา ทฺเวปิ ปูเรติฯ ตสฺมา ปริยตฺติยา ฐิตาย สาสนํ ฐิตํ โหติฯ ยทา ปน สา อนฺตรธายติ ตทา ปฐมํ อภิธมฺมปิฏกํ นสฺสติฯ ตตฺถ ปฏฺฐานํ สพฺพปฐมํ อนฺตรธายติฯ อนุกฺกเมน ปจฺฉา ธมฺมสงฺคโหฯ ตสฺมิํ อนฺตรหิเต อิตเรสุ ทฺวีสุ ปิฏเกสุ ฐิเตสุ สาสนํ ฐิตเมว โหติฯ

ตตฺถ สุตฺตนฺตปิฏเก อนฺตรธายมาเน ปฐมํ องฺคุตฺตรนิกาโย เอกาทสกโต ปฏฺฐาย ยาว เอกกา อนฺตรธายติฯ ตทนนฺตรํ สํยุตฺตนิกาโย จกฺกเปยฺยาลโต ปฏฺฐาย ยาว โอฆตรณา อนฺตรธายติฯ ตทนนฺตรํ มชฺฌิมนิกาโย อินฺทฺริยภาวนโต ปฏฺฐาย ยาว มูลปริยายา อนฺตรธายติฯ ตทนนฺตรํ ทีฆนิกาโย ทสุตฺตรโต ปฏฺฐาย ยาว พฺรหฺมชาลา อนฺตรธายติฯ เอกิสฺสาปิ ทฺวินฺนมฺปิ คาถานํ ปุจฺฉา อทฺธานํ คจฺฉติ; สาสนํ ธาเรตุํ น สกฺโกติ สภิยปุจฺฉา (สุ. นิ. 515 อาทโย) วิย อาฬวกปุจฺฉา (สุ. นิ. 183 อาทโย; สํ. นิ. 1.246) วิย จฯ เอตา กิร กสฺสปพุทฺธกาลิกา อนฺตรา สาสนํ ธาเรตุํ นาสกฺขิํสุฯ

ทฺวีสุ ปน ปิฏเกสุ อนฺตรหิเตสุปิ วินยปิฏเก ฐิเต สาสนํ ติฏฺฐติฯ ปริวารขนฺธเกสุ อนฺตรหิเตสุ อุภโตวิภงฺเค ฐิเต ฐิตเมว โหติฯ อุภโตวิภงฺเค อนฺตรหิเต มาติกาย ฐิตายปิ ฐิตเมว โหติฯ มาติกาย อนฺตรหิตาย ปาติโมกฺขปพฺพชฺชาอุปสมฺปทาสุ ฐิตาสุ สาสนํ ติฏฺฐติฯ ลิงฺคํ อทฺธานํ คจฺฉติฯ เสตวตฺถสมณวํโส ปน กสฺสปพุทฺธกาลโต ปฏฺฐาย สาสนํ ธาเรตุํ นาสกฺขิฯ ปจฺฉิมกสฺส ปน สจฺจปฏิเวธโต ปจฺฉิมกสฺส สีลเภทโต จ ปฏฺฐาย สาสนํ โอสกฺกิตํ นาม โหติฯ ตโต ปฏฺฐาย อญฺญสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ น วาริตาฯ

ตีณิ ปรินิพฺพานานิ นาม – กิเลสปรินิพฺพานํ, ขนฺธปรินิพฺพานํ, ธาตุปรินิพฺพานนฺติฯ ตตฺถ ‘กิเลสปรินิพฺพานํ’ โพธิปลฺลงฺเก อโหสิ, ‘ขนฺธปรินิพฺพานํ’ กุสินารายํ, ‘ธาตุปรินิพฺพานํ’ อนาคเต ภวิสฺสติฯ

สาสนสฺส กิร โอสกฺกนกาเล อิมสฺมิํ ตมฺพปณฺณิทีเป ธาตุโย สนฺนิปติตฺวา มหาเจติยํ คมิสฺสนฺติ, มหาเจติยโต นาคทีเป ราชายตนเจติยํ, ตโต มหาโพธิปลฺลงฺกํ คมิสฺสนฺติฯ นาคภวนโตปิ เทวโลกโตปิ พฺรหฺมโลกโตปิ ธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺกเมว คมิสฺสนฺติฯ สาสปมตฺตาปิ ธาตุ น อนฺตรา นสฺสิสฺสติฯ สพฺพา ธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺเก ราสิภูตา สุวณฺณกฺขนฺโธ วิย เอกฆนา หุตฺวา ฉพฺพณฺณรํสิโย วิสฺสชฺเชสฺสนฺติฯ ตา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริสฺสนฺติฯ ตโต ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา สนฺนิปติตฺวา ‘‘อชฺช สตฺถา ปรินิพฺพาติ, อชฺช สาสนํ โอสกฺกติ, ปจฺฉิมทสฺสนํ ทานิ อิทํ อมฺหาก’’นฺติ ทสพลสฺส ปรินิพฺพุตทิวสโต มหนฺตตรํ การุญฺญํ กริสฺสนฺติฯ ฐเปตฺวา อนาคามิขีณาสเว อวเสสา สกภาเวน สนฺธาเรตุํ น สกฺขิสฺสนฺติฯ ธาตูสุ เตโชธาตุ อุฏฺฐหิตฺวา ยาว พฺรหฺมโลกา อุคฺคจฺฉิสฺสติฯ สาสปมตฺตายปิ ธาตุยา สติ เอกชาลาว ภวิสฺสติ; ธาตูสุ ปริยาทานํ คตาสุ ปจฺฉิชฺชิสฺสติฯ เอวํ มหนฺตํ อานุภาวํ ทสฺเสตฺวา ธาตูสุ อนฺตรหิตาสุ สาสนํ อนฺตรหิตํ นาม โหติฯ ยาว เอวํ น อนฺตรธายติ ตาว อจริมํ นาม โหติฯ เอวํ อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ – เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ

กสฺมา ปน อปุพฺพํ อจริมํ น อุปฺปชฺชนฺตีติ? อนจฺฉริยตฺตาฯ พุทฺธา หิ อจฺฉริยมนุสฺสา, ยถาห – ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อจฺฉริยมนุสฺโสฯ กตโม เอกปุคฺคโล? ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. 1.172)ฯ ยทิ จ ทฺเว วา จตฺตาโร วา อฏฺฐ วา โสฬส วา เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ, น อจฺฉริยา ภเวยฺยุํฯ เอกสฺมิญฺหิ วิหาเร ทฺวินฺนํ เจติยานมฺปิ ลาภสกฺกาโร อุฬาโร น โหติ, ภิกฺขูปิ พหุตาย น อจฺฉริยา ชาตา, เอวํ พุทฺธาปิ ภเวยฺยุํ; ตสฺมา นุปฺปชฺชนฺติฯ เทสนาย จ วิเสสาภาวโตฯ ยญฺหิ สติปฏฺฐานาทิเภทํ ธมฺมํ เอโก เทเสติ, อญฺเญน อุปฺปชฺชิตฺวาปิ โสว เทเสตพฺโพ สิยาฯ ตโต อนจฺฉริโย สิยาฯ เอกสฺมิํ ปน ธมฺมํ เทเสนฺเต เทสนาปิ อจฺฉริยา โหติฯ วิวาทภาวโต จฯ พหูสุ จ พุทฺเธสุ อุปฺปนฺเนสุ พหูนํ อาจริยานํ อนฺเตวาสิกา วิย ‘อมฺหากํ พุทฺโธ ปาสาทิโก, อมฺหากํ พุทฺโธ มธุรสฺสโร ลาภี ปุญฺญวา’ติ วิวเทยฺยุํ; ตสฺมาปิ เอวํ นุปฺปชฺชนฺติฯ

อปิเจตํ การณํ มิลินฺทรญฺญา ปุฏฺเฐน นาคเสนตฺเถเรน วิตฺถาริตเมวฯ วุตฺตญฺหิ ตตฺถ (มิ. ป. 5.1.1) –

‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา – ‘‘อฏฺฐานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ – เนตํ ฐานํ วิชฺชตี’’ติ (อ. นิ. 1.277; ม. นิ. 3.129)ฯ เทเสนฺตา จ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพปิ ตถาคตา สตฺตติํส โพธิปกฺขิยธมฺเม เทเสนฺติ, กถยมานา จ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ กเถนฺติ, สิกฺขาเปนฺตา จ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขาเปนฺติ, อนุสาสมานา จ อปฺปมาทปฏิปตฺติยํ อนุสาสนฺติฯ ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพสมฺปิ ตถาคตานํ เอกา เทสนา เอกา กถา เอกา สิกฺขา เอกานุสิฏฺฐิ, เกน การเณน ทฺเว ตถาคตา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ? เอเกนปิ ตาว พุทฺธุปฺปาเทน อยํ โลโก โอภาสชาโตฯ ยทิ ทุติโย พุทฺโธ ภเวยฺย, ทฺวินฺนํ ปภาย อยํ โลโก ภิยฺโยโส มตฺตาย โอภาสชาโต ภเวยฺยฯ โอวทนฺตา จ ทฺเว ตถาคตา สุขํ โอวเทยฺยุํ, อนุสาสมานา จ สุขํ อนุสาเสยฺยุํฯ ตตฺถ เม การณํ ทสฺเสหิ ยถาหํ นิสฺสํสโย ภเวยฺย’’นฺติฯ

‘‘อยํ, มหาราช, ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติฯ ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น ฐานมุปคจฺเฉยฺยฯ

‘‘ยถา, มหาราช, นาวา เอกปุริสสนฺธารณี ภเวยฺย, เอกสฺมิํ ปุริเส อภิรูฬฺเห สา นาวา สมุปาทิกา ภเวยฺยฯ อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ตาทิโส อายุนา วณฺเณน วเยน ปมาเณน กิสถูเลน สพฺพงฺคปจฺจงฺเคนฯ โส ตํ นาวํ อภิรูเหยฺยฯ

อปินุ สา, มหาราช, นาวา ทฺวินฺนมฺปิ ธาเรยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น ฐานมุปคจฺเฉยฺย, โอสีเทยฺย อุทเก’’ติ ฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติฯ ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย…เป.… น ฐานมุปคจฺเฉยฺยฯ

‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส ยาวทตฺถํ โภชนํ ภุญฺเชยฺย ฉาเทนฺตํ ยาวกณฺฐมภิปูรยิตฺวาฯ โส ตโต ปีณิโต ปริปุณฺโณ นิรนฺตโร ตนฺทีคโต อโนนมิตทณฺฑชาโต ปุนเทว ตตฺตกํ โภชนํ ภุญฺเชยฺยฯ อปินุ โข โส, มหาราช, ปุริโส สุขิโต ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สกิํ ภุตฺโตว มเรยฺยา’’ติฯ เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี…เป.… น ฐานมุปคจฺเฉยฺยา’’ติฯ

‘‘กิํ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลตี’’ติ? ‘‘อิธ, มหาราช, ทฺเว สกฏา รตนปริปูริตา ภเวยฺยุํ ยาวสฺมา มุขสมาฯ เอก สกฏโต รตนํ คเหตฺวา เอกมฺหิ สกเฏ อากิเรยฺยุํฯ อปินุ ตํ, มหาราช, สกฏํ ทฺวินฺนมฺปิ สกฏานํ รตนํ ธาเรยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, นาภิปิ ตสฺส จเลยฺย, อราปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยุํ, เนมิปิ ตสฺส โอปเตยฺย, อกฺโขปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยา’’ติฯ ‘‘กินฺนุ โข, มหาราช, อติรตนภาเรน สกฏํ ภิชฺชตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลตีติฯ

‘‘อปิจ, มหาราช, อิมํ การณํ พุทฺธพลปริทีปนาย โอสาริตํฯ อญฺญมฺปิ ตตฺถ ปติรูปํ การณํ สุโณหิ เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติฯ ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย – ‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ, อมฺหากํ พุทฺโธ’ติ อุภโตปกฺขชาตา ภเวยฺยุํฯ

ยถา, มหาราช, ทฺวินฺนํ พลวามจฺจานํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย – ‘ตุมฺหากํ อมจฺโจ, อมฺหากํ อมจฺโจ’ติ อุภโตปกฺขชาตา โหนฺติ; เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย – ‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ, อมฺหากํ พุทฺโธ’ติ อุภโตปกฺขชาตา ภเวยฺยุํฯ อิทํ ตาว มหาราช เอกํ การณํ เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติฯ

‘‘อปรมฺปิ อุตฺตริํ การณํ สุโณหิ เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติฯ ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ ‘อคฺโค พุทฺโธ’ติ ยํ วจนํ ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย, ‘เชฏฺโฐ พุทฺโธ’ติ ‘เสฏฺโฐ พุทฺโธ’ติ ‘วิสิฏฺโฐ พุทฺโธ’ติ ‘อุตฺตโม พุทฺโธ’ติ ‘ปวโร พุทฺโธ’ติ ‘อสโม พุทฺโธ’ติ ‘อสมสโม พุทฺโธ’ติ ‘อปฺปฏิสโม พุทฺโธ’ติ ‘อปฺปฏิภาคี พุทฺโธ’ติ ‘อปฺปฏิปุคฺคโล พุทฺโธ’ติ ยํ วจนํ ตํ มิจฺฉา ภเวยฺยฯ อิทมฺปิ โข ตฺวํ, มหาราช, การณํ ตถโต สมฺปฏิจฺฉ เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติฯ

‘‘อปิจ, มหาราช, พุทฺธานํ ภควนฺตานํ สภาวปกติ เอสา ยํ เอโกเยว พุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชติฯ กสฺมา การณา? มหนฺตตฺตา สพฺพญฺญุพุทฺธคุณานํฯ อญฺญมฺปิ, มหาราช, ยํ โลเก มหนฺตํ ตํ เอกํเยว โหติฯ ปถวี, มหาราช, มหนฺตา, สา เอกาเยว; สาคโร มหนฺโต, โส เอโกเยว; สิเนรุ คิริราชา มหนฺโต, โส เอโกเยว; อากาโส มหนฺโต, โส เอโกเยว; สกฺโก มหนฺโต, โส เอโกเยว; มหาพฺรหฺมา มหนฺโต, โส เอโกเยว; ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ มหนฺโต, โส เอโกเยว โลกสฺมิํฯ ยตฺถ เต อุปฺปชฺชนฺติ ตตฺถ อญฺเญสํ โอกาโส น โหติฯ ตสฺมา, มหาราช, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอโกเยว โลเก อุปฺปชฺชตี’’ติฯ

‘‘สุกถิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปญฺโห โอปมฺเมหิ การเณหี’’ติ (มิ. ป. 5.1.1)ฯ

เอกิสฺสา โลกธาตุยาติ เอกสฺมิํ จกฺกวาเฬฯ เหฏฺฐา อิมินาว ปเทน ทส จกฺกวาฬสหสฺสานิ คหิตานิฯ ตานิปิ เอกจกฺกวาเฬเนว ปริจฺฉินฺทิตุํ วฏฺฏนฺติฯ พุทฺธา หิ อุปฺปชฺชมานา อิมสฺมิํเยว จกฺกวาเฬ อุปฺปชฺชนฺติ; อุปฺปชฺชนฏฺฐาเน ปน วาริเต อิโต อญฺเญสุ จกฺกวาเฬสุ น อุปฺปชฺชนฺตีติ วาริตเมว โหติฯ อปุพฺพํ อจริมนฺติ เอตฺถ จกฺกรตนปาตุภาวโต ปุพฺเพ ปุพฺพํ, ตสฺเสว อนฺตรธานโต ปจฺฉา จริมํฯ ตตฺถ ทฺวิธา จกฺกรตนสฺส อนฺตรธานํ โหติ – จกฺกวตฺติโน กาลกิริยาย วา ปพฺพชฺชาย วาฯ อนฺตรธายมานญฺจ ปน ตํ กาลกิริยโต วา ปพฺพชฺชโต วา สตฺตเม ทิวเส อนฺตรธายติฯ ตโต ปรํ จกฺกวตฺติโน ปาตุภาโว อวาริโตฯ กสฺมา ปน เอกจกฺกวาเฬ ทฺเว จกฺกวตฺติโน นุปฺปชฺชนฺตีติ? วิวาทุปจฺเฉทโต อนจฺฉริยภาวโต จกฺกรตนสฺส มหานุภาวโต จฯ ทฺวีสุ หิ อุปฺปชฺชนฺเตสุ ‘อมฺหากํ ราชา มหนฺโต, อมฺหากํ ราชา มหนฺโต’ติ วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺยฯ ‘เอกสฺมิํ ทีเป จกฺกวตฺตี, เอกสฺมิํ ทีเป จกฺกวตฺตี’ติ จ อนจฺฉริโย ภเวยฺยฯ โย จายํ จกฺกรตนสฺส ทฺวิสหสฺสทีปปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ อิสฺสริยานุปฺปทานสมตฺโถ มหานุภาโว, โส ปริหาเยยฺยฯ อิติ วิวาทุปจฺเฉทโต อนจฺฉริยภาวโต จกฺกรตนสฺส มหานุภาวโต จ น เอกจกฺกวาเฬ ทฺเว อุปฺปชฺชนฺติฯ

ยํ อิตฺโถ อรหํ อสฺส สมฺมาสมฺพุทฺโธติ เอตฺถ ติฏฺฐตุ ตาว สพฺพญฺญุคุเณ นิพฺพตฺเตตฺวา โลกตฺตารณสมตฺโถ พุทฺธภาโว, ปณิธานมตฺตมฺปิ อิตฺถิยา น สมฺปชฺชติฯ

‘‘มนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺติ, เหตุ สตฺถารทสฺสนํ;

ปพฺพชฺชา คุณสมฺปตฺติ, อธิกาโร จ ฉนฺทตา;

อฏฺฐธมฺมสโมธานา, อภินีหาโร สมิชฺฌตี’’ติฯ (พุ. วํ. 2.59);

อิมานิ หิ ปณิธานสมฺปตฺติการณานิฯ อิติ ปณิธานมฺปิ สมฺปาเทตุํ อสมตฺถาย อิตฺถิยา กุโต พุทฺธภาโวติ ‘‘อฏฺฐานเมตํ, อนวกาโส ยํ อิตฺถี อรหํ อสฺส สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ วุตฺตํฯ สพฺพาการปริปูโร วา ปุญฺญุสฺสโย สพฺพาการปริปูรเมว อตฺตภาวํ นิพฺพตฺเตตีติ ปุริโสว อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธฯ

ยํ อิตฺถี ราชา อสฺส จกฺกวตฺตีติอาทีสุปิ ยสฺมา อิตฺถิยา โกโสหิตวตฺถคุยฺหาทีนํ อภาเวน ลกฺขณานิ น ปริปูเรนฺติ, อิตฺถิรตนภาเวน สตฺตรตนสมงฺคิตา น สมฺปชฺชติ, สพฺพมนุสฺเสหิ จ อธิโก อตฺตภาโว น โหติ, ตสฺมา ‘‘อฏฺฐานเมตํ อนวกาโส ยํ อิตฺถี ราชา อสฺส จกฺกวตฺตี’’ติ วุตฺตํฯ ยสฺมา จ สกฺกตฺตาทีนิปิ ตีณิ ฐานานิ อุตฺตมานิ, อิตฺถิลิงฺคญฺจ หีนํ , ตสฺมา ตสฺสา สกฺกตฺตาทีนิปิ ปฏิสิทฺธานิฯ นนุ จ ยถา อิตฺถิลิงฺคํ เอวํ ปุริสลิงฺคมฺปิ พฺรหฺมโลเก นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘ยํ ปุริโส พฺรหฺมตฺตํ กาเรยฺย – ฐานเมตํ วิชฺชตี’’ติปิ น วตฺตพฺพํ สิยาติ? โน น วตฺตพฺพํฯ กสฺมา? อิธ ปุริสสฺส ตตฺถ นิพฺพตฺตนโตฯ พฺรหฺมตฺตนฺติ หิ มหาพฺรหฺมตฺตํ อธิปฺเปตํฯ อิตฺถี จ อิธ ฌานํ ภาเวตฺวา กาลํ กตฺวา พฺรหฺมปาริสชฺชานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ, น มหาพฺรหฺมานํฯ ปุริโส ปน ตตฺถ น อุปฺปชฺชตีติ น วตฺตพฺโพฯ สมาเนปิ เจตฺถ อุภยลิงฺคาภาเว ปุริสสณฺฐานาว พฺรหฺมาโน, น อิตฺถิสณฺฐานาฯ ตสฺมา สุวุตฺตเมเวตํฯ

กายทุจฺจริตสฺสาติอาทีสุ ยถา นิมฺพพีชโกสาตกีพีชาทีนิ มธุรํ ผลํ น นิพฺพตฺเตนฺติ, อสาตํ อมธุรเมว นิพฺพตฺเตนฺติ, เอวํ กายทุจฺจริตาทีนิ มธุรํ วิปากํ น นิพฺพตฺเตนฺติ, อมธุรเมว นิพฺพตฺเตนฺติฯ ยถา จ อุจฺฉุพีชสาลิพีชาทีนิ มธุรํ สาธุรสเมว ผลํ นิพฺพตฺเตนฺติ, น อสาตํ กฏุกํ, เอวํ กายสุจริตาทีนิ มธุรเมว วิปากํ นิพฺพตฺเตนฺติ, น อมธุรํฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ยาทิสํ วปเต พีชํ, ตาทิสํ หรเต ผลํ;

กลฺยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปกนฺติฯ (สํ. นิ. 1.256);

ตสฺมา ‘‘อฏฺฐานเมตํ อนวกาโส, ยํ กายทุจฺจริตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

กายทุจฺจริตสมงฺคีติอาทีสุ สมงฺคีติ ปญฺจวิธา สมงฺคิตา – อายูหนสมงฺคิตา, เจตนาสมงฺคิตา, กมฺมสมงฺคิตา, วิปากสมงฺคิตา, อุปฏฺฐานสมงฺคิตาติฯ ตตฺถ กุสลากุสลกมฺมายูหนกฺขเณ ‘อายูหนสมงฺคิตา’ วุจฺจติฯ ตถา ‘เจตนาสมงฺคิตา’ฯ ยาว ปน อรหตฺตํ น ปาปุณนฺติ ตาว สพฺเพปิ สตฺตา ปุพฺเพ อุปจิตํ วิปาการหํ กมฺมํ สนฺธาย กมฺมสมงฺคิโนติ วุจฺจนฺติ – เอสา ‘กมฺมสมงฺคิตา’ฯ ‘วิปากสมงฺคิตา’ ปน วิปากกฺขเณเยว เวทิตพฺพาฯ

ยาว ปน สตฺตา อรหตฺตํ น ปาปุณนฺติ ตาว เตสํ ตโต ตโต จวิตฺวา นิรเย ตาว อุปฺปชฺชมานานํ อคฺคิชาลโลหกุมฺภีอาทีหิ อุปฏฺฐานากาเรหิ นิรโย, คพฺภเสยฺยกตฺตํ อาปชฺชมานานํ มาตุกุจฺฉิ, เทเวสุ อุปฺปชฺชมานานํ กปฺปรุกฺขวิมานาทีหิ อุปฏฺฐานากาเรหิ เทวโลโกติ เอวํ อุปปตฺตินิมิตฺตํ อุปฏฺฐาติฯ อิติ เนสํ อิมินา อุปฺปตฺตินิมิตฺตูปฏฺฐาเนน อปริมุตฺตตฺตา ‘อุปฏฺฐานสมงฺคิตา’ นามฯ สาว จลติ, เสสา นิจฺจลาฯ นิรเย หิ อุปฏฺฐิเตปิ เทวโลโก อุปฏฺฐาติ; เทวโลเก อุปฏฺฐิเตปิ นิรโย อุปฏฺฐาติ; มนุสฺสโลเก อุปฏฺฐิเตปิ ติรจฺฉานโยนิ อุปฏฺฐาติ; ติรจฺฉานโยนิยา จ อุปฏฺฐิตายปิ มนุสฺสโลโก อุปฏฺฐาติเยวฯ

ตตฺริทํ วตฺถุ – โสณคิริปาเท กิร อเจลวิหาเร โสณตฺเถโร นาม เอโก ธมฺมกถิโกฯ ตสฺส ปิตา สุนขวาชิโก นาม ลุทฺทโก อโหสิฯ เถโร ตํ ปฏิพาหนฺโตปิ สํวเร ฐเปตุํ อสกฺโกนฺโต ‘มา นสฺสิ วราโก’ติ มหลฺลกกาเล อกามกํ ปพฺพาเชสิฯ ตสฺส คิลานเสยฺยาย นิปนฺนสฺส นิรโย อุปฏฺฐาสิฯ โสณคิริปาทโต มหนฺตา มหนฺตา สุนขา อาคนฺตฺวา ขาทิตุกามา วิย สมฺปริวาเรสุํฯ โส มหาภยภีโต ‘‘วาเรหิ, ตาต โสณ! วาเรหิ, ตาต โสณา’’ติ อาหฯ ‘‘กิํ มหาเถรา’’ติ? ‘‘น ปสฺสสิ, ตาตา’’ติ ตํ ปวตฺติํ อาจิกฺขิฯ โสณตฺเถโร ‘กถญฺหิ นาม มาทิสสฺส ปิตา นิรเย นิพฺพตฺติสฺสติ, ปติฏฺฐาหมสฺส ภวิสฺสามี’ติ สามเณเรหิ นานาปุปฺผานิ อาหราเปตฺวา เจติยงฺคณโพธิยงฺคเณสุ มาลาสนฺถารปูชญฺจ อาสนปูชญฺจ กาเรตฺวา ปิตรํ มญฺเจน เจติยงฺคณํ หริตฺวา มญฺเจ นิปชฺชาเปตฺวา ‘‘อยํ เม, มหาเถร, ปูชา ตุมฺหากํ อตฺถาย กตา; ‘อยํ เม, ภควา, ทุคฺคตปณฺณากาโร’ติ วตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา จิตฺตํ ปสาเทหี’’ติ อาหฯ โส มหาเถโร ปูชํ ทิสฺวา ตถากโรนฺโต จิตฺตํ ปสาเทสิฯ ตาวเทวสฺส เทวโลโก อุปฏฺฐาสิ, นนฺทวนจิตฺตลตาวนมิสฺสกวนผารุสกวนวิมานานิ เจว เทวนาฏกานิ จ ปริวาเรตฺวา ฐิตานิ วิย อเหสุํฯ โส ‘‘อเปถ, โสณ! อเปถ, โสณา’’ติ อาหฯ ‘‘กิมิทํ, มหาเถรา’’ติ? ‘‘เอตา เต, ตาต, มาตโร อาคจฺฉนฺตี’’ติฯ

‘เถโร สคฺโค อุปฏฺฐิโต มหาเถรสฺสา’ติ จินฺเตสิ ฯ เอวํ อุปฏฺฐานสมงฺคิตา จลตีติ เวทิตพฺพาฯ เอตาสุ สมงฺคิตาสุ อิธ อายูหนเจตนากมฺมสมงฺคิตาวเสน ‘‘กายทุจฺจริตสมงฺคี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ

ปฐมพลนิทฺเทสวณฺณนาฯ

ทุติยพลนิทฺเทโส

[810] ทุติยพลนิทฺเทเส คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานีติ คติสมฺปตฺติยา ปฏิพาหิตานิ นิวาริตานิ ปฏิเสธิตานิฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ เอตฺถ จ คติสมฺปตฺตีติ สมฺปนฺนา คติ เทวโลโก จ มนุสฺสโลโก จฯ คติวิปตฺตีติ วิปนฺนา คติ จตฺตาโร อปายาฯ อุปธิสมฺปตฺตีติ อตฺตภาวสมิทฺธิฯ อุปธิวิปตฺตีติ หีนอตฺตภาวตาฯ กาลสมฺปตฺตีติ สุราชสุมนุสฺสกาลสงฺขาโต สมฺปนฺนกาโลฯ กาลวิปตฺตีติ ทุราชทุมนุสฺสกาลสงฺขาโต วิปนฺนกาโลฯ ปโยคสมฺปตฺตีติ สมฺมาปโยโคฯ ปโยควิปตฺตีติ มิจฺฉาปโยโคฯ

ตตฺถ เอกจฺจสฺส พหูนิ ปาปกมฺมานิ โหนฺติฯ ตานิ คติวิปตฺติยํ ฐิตสฺส วิปจฺเจยฺยุํฯ โส ปน เอเกน กลฺยาณกมฺเมน คติสมฺปตฺติยํ เทเวสุ วา มนุสฺเสสุ วา นิพฺพตฺโตฯ ตาทิเส จ ฐาเน อกุสลสฺส วาโร นตฺถิ, เอกนฺตํ กุสลสฺเสว วาโรติฯ เอวมสฺส ตานิ กมฺมานิ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตีติ ปชานาติฯ

อปรสฺสาปิ พหูนิ ปาปกมฺมานิ โหนฺติฯ ตานิ อุปธิวิปตฺติยํ ฐิตสฺส วิปจฺเจยฺยุํฯ โส ปน เอเกน กลฺยาณกมฺเมน อุปธิสมฺปตฺติยํ ฐิโต สุสณฺฐิตงฺคปจฺจงฺโค อภิรูโป ทสฺสนีโย พฺรหฺมวจฺฉสทิโสฯ สเจปิ ทาสิยา กุจฺฉิสฺมิํ ทาสชาโต โหติ ‘เอวรูโป อตฺตภาโว กิลิฏฺฐกมฺมสฺส นานุจฺฉวิโก’ติ หตฺถิเมณฺฑอสฺสพนฺธกโคปาลกกมฺมาทีนิ ตํ น กาเรนฺติ; สุขุมวตฺถานิ นิวาสาเปตฺวา ภณฺฑาคาริกฏฺฐานาทีสุ ฐเปนฺติฯ สเจ อิตฺถี โหติ, หตฺถิภตฺตปจนาทีนิ น กาเรนฺติ; วตฺถาลงฺการํ ทตฺวา สยนปาลิกํ วา นํ กโรนฺติ, โสมเทวิ วิย วลฺลภฏฺฐาเน วา ฐเปนฺติฯ