เมนู

อุตฺตาสพหุโลติ พลวภยพหุโล ฯ อิทํ ปุริมสฺเสว อตฺถวิวรณํฯ อุกฺกณฺฐนพหุโลติ สงฺขารโต อุทฺธํ วิสงฺขาราภิมุขตาย อุกฺกณฺฐนพหุโลฯ อนภิรติพหุโลติ อุกฺกณฺฐนวเสเนว อภิรติอภาวํ ทีเปติฯ อิทานิปิ ตมตฺถํ ทฺวีหิ วจเนหิ วิวรติฯ ตตฺถ พหิมุโขติ สงฺขารโต พหิภูตนิพฺพานาภิมุโขฯ น รมตีติ นาภิรมติฯ อนิพฺพิทฺธปุพฺพนฺติ อนมตคฺเค สํสาเร อนฺตํ ปาเปตฺวา อนิพฺพิทฺธปุพฺพํฯ อปฺปทาลิตปุพฺพนฺติ ตสฺเสว อตฺถวจนํ, อนฺตกรเณเนว อปทาลิตปุพฺพนฺติ อตฺโถฯ โลภกฺขนฺธนฺติ โลภราสิํ, โลภโกฏฺฐาสํ วาฯ อิมาหิ โสฬสหิ ปญฺญาหิ สมนฺนาคโตติ อุกฺกฏฺฐปริจฺเฉเทน อรหาเยว วุตฺโตฯ อุปริ ‘‘เอโก เสกฺขปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต’’ติ (ปฏิ. ม. 3.8) วุตฺตตฺตา โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโนปิ ลพฺภนฺติเยวฯ

2. ปุคฺคลวิเสสนิทฺเทสวณฺณนา

[8] ทฺเว ปุคฺคลาติอาทีหิ ปฏิสมฺภิทปฺปตฺตปุคฺคลวิเสสปฏิปาฏิํ ทสฺเสติฯ ตตฺถ ปุพฺพโยโคติ อตีตชาตีสุ ปฏิสมฺภิทปฺปตฺติเหตุภูโต ปุญฺญปโยโคฯ เตนาติ เตน ปุพฺพโยคการเณนฯ เอวํ เสเสสุปิฯ อติเรโก โหตีติ อติริตฺโต โหติ, อติเรกโยคโต วา ‘‘อติเรโก’’ติ วุตฺโตฯ อธิโก โหตีติ อคฺโค โหติฯ วิเสโส โหตีติ วิสิฏฺโฐ โหติ, วิเสสโยคโต วา วิเสโสฯ ญาณํ ปภิชฺชตีติ ปฏิสมฺภิทาญาณปฺปเภทํ ปาปุณาติฯ

พหุสฺสุโตติ พุทฺธวจนวเสนฯ เทสนาพหุโลติ ธมฺมเทสนาวเสนฯ ครูปนิสฺสิโตติ ปญฺญาย อธิกํ ครุํ อุปนิสฺสิโตฯ วิหารพหุโลติ วิปสฺสนาวิหารพหุโล, ผลสมาปตฺติวิหารพหุโล วาฯ ปจฺจเวกฺขณาพหุโลติ วิปสฺสนาวิหาเร สติ วิปสฺสนาปจฺจเวกฺขณาพหุโล, ผลสมาปตฺติวิหาเร สติ ผลสมาปตฺติปจฺจเวกฺขณาพหุโลฯ เสขปฏิสมฺภิทปฺปตฺโตติ เสโข หุตฺวา ปฏิสมฺภิทปฺปตฺโตฯ เอวํ อเสขปฏิสมฺภิทปฺปตฺโตฯ สาวกปารมิปฺปตฺโตติ เอตฺถ มหาปญฺญานํ อคฺคสฺส มหาสาวกสฺส สตฺตสฏฺฐิยา สาวกญาณานํ ปารคมนํ ปารมี, สาวกสฺส ปารมี สาวกปารมี, ตํ สาวกปารมิํ ปตฺโตติ สาวกปารมิปฺปตฺโตฯ สาวกปารมิตาปฺปตฺโตติ วา ปาโฐฯ

สตฺตสฏฺฐิยา สาวกญาณานํ ปาลโก ปูรโก จ โส มหาสาวโก ปรโม, ตสฺส ปรมสฺส อยํ สตฺตสฏฺฐิเภทา ญาณกิริยา ปรมสฺส ภาโว, กมฺมํ วาติ ปารมี, ตสฺส สาวกสฺส ปารมี สาวกปารมี , ตํ ปตฺโตติ สาวกปารมิปฺปตฺโตฯ สาวกปารมิปฺปตฺโตติ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถราทิโก โย โกจิ สาวโกฯ สาวกปารมิปฺปตฺตสาวกโต อติเรกสฺส อญฺญสฺส สาวกสฺส อภาวา เอโก ปจฺเจกสมฺพุทฺโธติ อาหฯ ปุน ปญฺญาปเภทกุสโลติอาทีหิ วุตฺตตฺถเมว นิคเมตฺวา ทสฺเสสีติฯ ญาณกถาย เยภุยฺเยน อเนกานิ ญาณานิ นิทฺทิฏฺฐานิฯ ปญฺญากถาย เยภุยฺเยน เอกาปิ ปญฺญา นานาการวเสน นานากตฺวา วุตฺตาติ อยํ วิเสโสฯ

มหาปญฺญากถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

2. อิทฺธิกถา

อิทฺธิกถาวณฺณนา

[9] อิทานิ ปญฺญากถาย อนนฺตรํ ปญฺญานุภาวํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย อิทฺธิกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนาฯ ตตฺถ ปุจฺฉาสุ ตาว กา อิทฺธีติ สภาวปุจฺฉาฯ กติ อิทฺธิโยติ ปเภทปุจฺฉาฯ กติ ภูมิโยติ สมฺภารปุจฺฉาฯ กติ ปาทาติ ปติฏฺฐปุจฺฉาฯ กติ ปทานีติ อาสนฺนการณปุจฺฉาฯ กติ มูลานีติ อาทิการณปุจฺฉาฯ วิสชฺชเนสุ อิชฺฌนฏฺเฐน อิทฺธีติ นิปฺผตฺติอตฺเถน ปฏิลาภฏฺเฐน จาติ อตฺโถฯ ยญฺหิ นิปฺผชฺชติ ปฏิลพฺภติ จ, ตํ อิชฺฌตีติ วุจฺจติฯ ยถาห – ‘‘กามํ กามยมานสฺส, ตสฺส เจตํ สมิชฺฌตี’’ติ (สุ. นิ. 772)ฯ ‘‘เนกฺขมฺมํ อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, ปฏิหรตีติ ปาฏิหาริย’’นฺติอาทิ (ปฏิ. ม. 3.32)ฯ อปโร นโย – อิชฺฌนฏฺเฐน อิทฺธิ, อุปายสมฺปทาเยตํ อธิวจนํฯ อุปายสมฺปทา หิ อิชฺฌติ อธิปฺเปตผลปฺปสวนโตฯ ยถาห – ‘‘อยํ โข, จิตฺโต คหปติ, สีลวา กลฺยาณธมฺโม, สเจ ปณิทหิสฺสติ ‘อนาคตมทฺธานํ ราชา อสฺสํ จกฺกวตฺตี’ติฯ อิชฺฌิสฺสติ หิ สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา’’ติ (สํ. นิ. 4.352)ฯ อปโร นโย – เอตาย สตฺตา อิชฺฌนฺตีติ อิทฺธิฯ อิชฺฌนฺตีติ อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติฯ

[10] ทสสุ อิทฺธีสุ อธิฏฺฐานวเสน นิปฺผนฺนตฺตา อธิฏฺฐานา อิทฺธิฯ ปกติวณฺณวิชหนวิการวเสน ปวตฺตตฺตา วิกุพฺพนา อิทฺธิ