เมนู

อถ วา เอกภวปริยาปนฺนรูปภงฺควเสน ขยธมฺมํ, เอกสนฺตติปริยาปนฺนรูปกฺขยวเสน วยธมฺมํ, รูปสฺส ขณภงฺควเสน วิราคธมฺมํ, ติณฺณมฺปิ อปุนปฺปวตฺติวเสน นิโรธธมฺมนฺติปิ โยเชตพฺพํฯ

ชรามรณํ อนิจฺจนฺติอาทีสุ ชรามรณํ น อนิจฺจํ, อนิจฺจสภาวานํ ปน ขนฺธานํ ชรามรณตฺตา อนิจฺจํ นาม ชาตํฯ สงฺขตาทีสุปิ เอเสว นโยฯ อนฺตรเปยฺยาเล ชาติยาปิ อนิจฺจาทิตาย เอเสว นโยฯ

ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติอาทิ น วิปสฺสนาวเสน วุตฺตํ, เกวลํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส เอเกกองฺควเสน สงฺขิปิตฺวา ววตฺถานโต สมฺมสนญาณํ นาม โหตีติ ปริยาเยน วุตฺตํฯ น ปเนตํ กลาปสมฺมสนญาณํ ธมฺมฏฺฐิติญาณเมว ตํ โหตีติฯ อสติ ชาติยาติ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต, อสติยา ชาติยาติ วุตฺตํ โหติฯ อสติ สงฺขาเรสูติ วจนวิปลฺลาโส กโต, อสนฺเตสุ สงฺขาเรสูติ วุตฺตํ โหติฯ ภวปจฺจยา ชาติ, อสตีติอาทิ ‘‘ภวปจฺจยา ชาติ, อสติ ภเว นตฺถิ ชาตี’’ติอาทินา นเยน โยเชตพฺพํฯ

สมฺมสนญาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

6. อุทยพฺพยญาณนิทฺเทสวณฺณนา

[49] อิทานิ อนนฺตรํ วุตฺตสฺส สมฺมสนญาณสฺส นานานเยหิ ภาวนาถิรกรเณน ปารํ คนฺตฺวา ฐิเตน อนิจฺจาทิโต ทิฏฺเฐ สงฺขาเร อุทยพฺพเยน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนิจฺจาทิโต วิปสฺสนตฺถํ วุตฺตสฺส อุทยพฺพยานุปสฺสนาญาณสฺส นิทฺเทเส ชาตํ รูปนฺติอาทีสุ สนฺตติวเสน ยถาสกํ ปจฺจเยหิ นิพฺพตฺตํ รูปํฯ ตสฺส ชาตสฺส รูปสฺส นิพฺพตฺติลกฺขณํ ชาติํ อุปฺปาทํ อภินวาการํ อุทโยติ, วิปริณามลกฺขณํ ขยํ ภงฺคํ วโยติ, อนุปสฺสนา ปุนปฺปุนํ นิสามนา, อุทยพฺพย อนุปสฺสนาญาณนฺติ อตฺโถฯ เวทนาทีสุปิ เอเสว นโยฯ ชาติชรามรณวนฺตานํเยว อุทยพฺพยสฺส ปริคฺคเหตพฺพตฺตา ชาติชรามรณานํ อุทยพฺพยาภาวโต ชาติชรามรณํ อนามสิตฺวา ชาตํ จกฺขุ…เป.… ชาโต ภโวติ เปยฺยาลํ กตํฯ

โส เอวํ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺโต เอวํ ชานาติ ‘‘อิเมสํ ขนฺธานํ อุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ อนุปฺปนฺนานํ ราสิ วา นิจโย วา นตฺถิ, อุปฺปชฺชมานานมฺปิ ราสิโต วา นิจยโต วา อาคมนํ นาม นตฺถิ, นิรุชฺฌมานานมฺปิ ทิสาวิทิสาคมนํ นาม นตฺถิ, นิรุทฺธานมฺปิ เอกสฺมิํ ฐาเน ราสิโต นิจยโต นิธานโต อวฏฺฐานํ นาม นตฺถิฯ ยถา ปน วีณาย วาทิยมานาย อุปฺปนฺนสฺส สทฺทสฺส เนว อุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ สนฺนิจโย อตฺถิ, น อุปฺปชฺชมาโน สนฺนิจยโต อาคโต, น นิรุชฺฌมานสฺส ทิสาวิทิสาคมนํ อตฺถิ, น นิรุทฺโธ กตฺถจิ สนฺนิจิโต ติฏฺฐติ, อถ โข วีณญฺจ อุปวีณญฺจ ปุริสสฺส จ ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺจ อหุตฺวา สมฺโภติ, หุตฺวา ปฏิเวติ, เอวํ สพฺเพปิ รูปารูปิโน ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติฯ

[50] เอวํ สงฺเขปโต อุทยพฺพยทสฺสนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยํ ปสฺสนฺโต กติ ลกฺขณานิ ปสฺสตีติอาทีหิ ราสิโต คณนํ ปุจฺฉิตฺวา, ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ อุทยํ ปสฺสนฺโต ปญฺจวีสติ ลกฺขณานิ ปสฺสตีติอาทีหิ ราสิโตว คณนํ วิสฺสชฺเชตฺวา, ปุน รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสนฺโต กติ ลกฺขณานิ ปสฺสตีติอาทีหิ วิภาคโต คณนํ ปุจฺฉิตฺวา รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสนฺโต ปญฺจ ลกฺขณานิ ปสฺสตีติอาทีหิ วิภาคโต คณนํ วิสฺสชฺเชตฺวา, ปุน รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสนฺโต กตมานิ ปญฺจ ลกฺขณานิ ปสฺสตีติอาทีหิ ลกฺขณวิภาคํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํฯ

ตตฺถ อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโยติ ‘‘ปุริมกมฺมภวสฺมิํ โมโห อวิชฺชา’’ติ วุตฺตาย อวิชฺชาย สติ อิมสฺมิํ ภเว รูปสฺส อุปฺปาโท โหตีติ อตฺโถฯ ปจฺจยสมุทยฏฺเฐนาติ ปจฺจยสฺส อุปฺปนฺนภาเวนาติ อตฺโถฯ อวิชฺชาตณฺหากมฺมานิ เจตฺถ อิธ ปฏิสนฺธิเหตุภูตา อตีตปจฺจยา ฯ อิเมสุ จ ตีสุ คหิเตสุ สงฺขารุปาทานานิ คหิตาเนว โหนฺติฯ อาหารสมุทยาติ ปวตฺติปจฺจเยสุ กพฬีการาหารสฺส พลวตฺตา โสเยว คหิโตฯ ตสฺมิํ ปน คหิเต ปวตฺติเหตุภูตานิ อุตุจิตฺตานิปิ คหิตาเนว โหนฺติฯ นิพฺพตฺติลกฺขณนฺติ อทฺธาสนฺตติขณวเสน รูปสฺส อุปฺปาทํ, อุปฺปาโทเยว สงฺขตลกฺขณตฺตา ลกฺขณนฺติ จ วุตฺโตฯ

ปญฺจ ลกฺขณานีติ อวิชฺชา ตณฺหา กมฺมาหารา นิพฺพตฺติ จาติ อิมานิ ปญฺจ ลกฺขณานิฯ อวิชฺชาทโยปิ หิ รูปสฺส อุทโย ลกฺขียติ เอเตหีติ ลกฺขณานิฯ นิพฺพตฺติ ปน สงฺขตลกฺขณเมว, ตมฺปิ สงฺขตนฺติ ลกฺขียติ เอเตนาติ ลกฺขณํฯ

อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรโธติ อนาคตภวสฺส ปจฺจยภูตาย อิมสฺมิํ ภเว อวิชฺชาย อรหตฺตมคฺคญาเณน นิโรเธ กเต ปจฺจยาภาวา อนาคตสฺส รูปสฺส อนุปฺปาโท นิโรโธ โหตีติ อตฺโถฯ ปจฺจยนิโรธฏฺเฐนาติ ปจฺจยสฺส นิรุทฺธภาเวนาติ อตฺโถฯ นิโรโธ เจตฺถ อนาคตปฏิสนฺธิปจฺจยานํ อิธ อวิชฺชาตณฺหากมฺมานํเยว นิโรโธฯ อาหารนิโรธา รูปนิโรโธติ ปวตฺติปจฺจยสฺส กพฬีการาหารสฺส อภาเว ตํสมุฏฺฐานรูปาภาโว โหติฯ วิปริณามลกฺขณนฺติ อทฺธาสนฺตติขณวเสน รูปสฺส ภงฺคํ, ภงฺโคเยว สงฺขตลกฺขณตฺตา ลกฺขณนฺติ วุตฺโตฯ อิธ ปญฺจ ลกฺขณานีติ อวิชฺชาตณฺหากมฺมาหารานํ อภาวนิโรธา จตฺตาริ, วิปริณาโม เอกนฺติ ปญฺจฯ เอส นโย เวทนากฺขนฺถาทีสุฯ อยํ ปน วิเสโส – อรูปกฺขนฺธานํ อุทยพฺพยทสฺสนํ อทฺธาสนฺตติวเสน, น ขณวเสนฯ ผสฺโส เวทนาสญฺญาสงฺขารกฺขนฺธานํ ปวตฺติปจฺจโย, ตํนิโรธา จ เตสํ นิโรโธฯ นามรูปํ วิญฺญาณกฺขนฺธสฺส ปวตฺติปจฺจโย, ตํนิโรธา จ ตสฺส นิโรโธติฯ

เกจิ ปนาหุ – ‘‘จตุธา ปจฺจยโต อุทยพฺพยทสฺสเน อตีตาทิวิภาคํ อนามสิตฺวาว สพฺพสามญฺญวเสน อวิชฺชาทีหิ อุเทตีติ อุปฺปชฺชมานภาวมตฺตํ คณฺหาติ, น อุปฺปาทํฯ อวิชฺชาทินิโรธา นิรุชฺชตีติ อนุปฺปชฺชมานภาวมตฺตํ คณฺหาติ, น ภงฺคํฯ ขณโต อุทยพฺพยทสฺสเน ปจฺจุปฺปนฺนานํ อุปฺปาทํ ภงฺคํ คณฺหาตี’’ติฯ

วิปสฺสมาโน ปน วิปสฺสโก ปฐมํ ปจฺจยโต อุทยพฺพยํ มนสิกริตฺวา วิปสฺสนากาเล อวิชฺชาทิเก จตุโร ธมฺเม วิสฺสชฺเชตฺวา อุทยพฺพยวนฺเตเยว ขนฺเธ คเหตฺวา เตสํ อุทยพฺพยํ ปสฺสติ, เอวญฺจ ตสฺส วิปสฺสกสฺส ‘‘เอวํ รูปาทีนํ อุทโย, เอวํ วโย, เอวํ รูปาทโย อุเทนฺติ, เอวํ เวนฺตี’’ติ ปจฺจยโต จ ขณโต จ วิตฺถาเรน อุทยพฺพยํ ปสฺสโต ‘‘อิติ กิร อิเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติ ญาณํ วิสทตรํ โหติ, สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทนยลกฺขณเภทา ปากฏา โหนฺติ ฯ ยญฺหิ โส อวิชฺชาทิสมุทยา ขนฺธานํ สมุทยํ อวิชฺชาทินิโรธา จ ขนฺธานํ นิโรธํ ปสฺสติ, อิทมสฺส ปจฺจยโต อุทยพฺพยทสฺสนํฯ ยํ ปน นิพฺพตฺติลกฺขณวิปริณามลกฺขณานิ ปสฺสนฺโต ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ ปสฺสติ, อิทมสฺส ขณโต อุทยพฺพยทสฺสนํฯ อุปฺปตฺติกฺขเณเยว หิ นิพฺพตฺติลกฺขณํ, ภงฺคกฺขเณ จ วิปริณามลกฺขณํฯ

อิจฺจสฺเสวํ ปจฺจยโต เจว ขณโต จ ทฺเวธา อุทยพฺพยํ ปสฺสโต ปจฺจยโต อุทยทสฺสเนน สมุทยสจฺจํ ปากฏํ โหติ ชนกาวโพธโตฯ ขณโต อุทยทสฺสเนน ทุกฺขสจฺจํ ปากฏํ โหติ ชาติทุกฺขาวโพธโตฯ ปจฺจยโต วยทสฺสเนน นิโรธสจฺจํ ปากฏํ โหติ ปจฺจยานุปฺปาเทน ปจฺจยวตํ อนุปฺปาทาวโพธโตฯ ขณโต วยทสฺสเนน ทุกฺขสจฺจเมว ปากฏํ โหติ มรณทุกฺขาวโพธโตฯ ยญฺจสฺส อุทยพฺพยทสฺสนํ, มคฺโควายํ โลกิโกติ มคฺคสจฺจํ ปากฏํ โหติ ตตฺร สมฺโมหวิฆาตโตฯ

ปจฺจยโต จสฺส อุทยทสฺสเนน อนุโลโม ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ปากโฏ โหติ ‘‘อิมสฺมิํ สติ อิทํ โหตี’’ติ (ม. นิ. 1.404; สํ. นิ. 2.21; อุทา. 1) อวโพธโตฯ ปจฺจยโต วยทสฺสเนน ปฏิโลโม ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ปากโฏ โหติ ‘‘อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌตี’’ติ (ม. นิ. 1.406; สํ. นิ. 2.21; อุทา. 2) อวโพธโตฯ ขณโต ปน อุทยพฺพยทสฺสเนน ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ธมฺมา ปากฏา โหนฺติ สงฺขตลกฺขณาวโพธโตฯ อุทยพฺพยวนฺโต หิ สงฺขตา, เต จ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนาติฯ

ปจฺจยโต จสฺส อุทยทสฺสเนน เอกตฺตนโย ปากโฏ โหติ เหตุผลสมฺพนฺเธน สนฺตานสฺส อนุปจฺเฉทาวโพธโตฯ อถ สุฏฺฐุตรํ อุจฺเฉททิฏฺฐิํ ปชหติฯ ขณโต อุทยทสฺสเนน นานตฺตนโย ปากโฏ โหติ นวนวานํ อุปฺปาทาวโพธโตฯ อถ สุฏฺฐุตรํ สสฺสตทิฏฺฐิํ ปชหติฯ ปจฺจยโต จสฺส อุทยพฺพยทสฺสเนน อพฺยาปารนโย ปากโฏ โหติ ธมฺมานํ อวสวตฺติภาวาวโพธโตฯ อถ สุฏฺฐุตรํ อตฺตทิฏฺฐิํ ปชหติฯ ปจฺจยโต ปน อุทยทสฺสเนน เอวํธมฺมตานโย ปากโฏ โหติ ปจฺจยานุรูเปน ผลสฺสุปฺปาทาวโพธโตฯ อถ สุฏฺฐุตรํ อกิริยทิฏฺฐิํ ปชหติฯ

ปจฺจยโต จสฺส อุทยทสฺสเนน อนตฺตลกฺขณํ ปากฏํ โหติ ธมฺมานํ นิรีหกตฺตปจฺจยปฏิพทฺธวุตฺติตาวโพธโตฯ ขณโต อุทยพฺพยทสฺสเนน อนิจฺจลกฺขณํ ปากฏํ โหติ หุตฺวา อภาวาวโพธโต, ปุพฺพนฺตาปรนฺตวิเวกาวโพธโต จฯ ทุกฺขลกฺขณมฺปิ ปากฏํ โหติ อุทยพฺพเยหิ ปฏิปีฬนาวโพธโตฯ สภาวลกฺขณมฺปิ ปากฏํ โหติ อุทยพฺพยปริจฺฉินฺนาวโพธโต ฯ สภาวลกฺขเณ สงฺขตลกฺขณสฺส ตาวกาลิกตฺตมฺปิ ปากฏํ โหติ, อุทยกฺขเณ วยสฺส, วยกฺขเณ จ อุทยสฺส อภาวาวโพธโตติฯ

ตสฺเสวํ ปากฏีภูตสจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทนยลกฺขณเภทสฺส ‘‘เอวํ กิร นามิเม ธมฺมา อนุปฺปนฺนปุพฺพา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ นิจฺจนวาว หุตฺวา สงฺขารา อุปฏฺฐหนฺติฯ น เกวลญฺจ นิจฺจนวาว, สูริยุคฺคมเน อุสฺสาวพินฺทุ วิย อุทกปุพฺพุโฬ วิย อุทเก ทณฺฑราชิ วิย อารคฺเค สาสโป วิย วิชฺชุปฺปาโท วิย จ ปริตฺตฏฺฐายิโน มายามรีจิสุปินนฺตอลาตจกฺกคนฺธพฺพนครเผณกทลิอาทโย วิย อสารา นิสฺสาราติ จาปิ อุปฏฺฐหนฺติฯ เอตฺตาวตา เตน ‘‘วยธมฺมเมว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนญฺจ วยํ อุเปตี’’ติ อิมินา อากาเรน สมปญฺญาส ลกฺขณานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ฐิตํ อุทยพฺพยานุปสฺสนา นาม ปฐมํ ตรุณวิปสฺสนาญาณํ อธิคตํ โหติ, ยสฺสาธิคมา ‘‘อารทฺธวิปสฺสโก’’ติ สงฺขํ คจฺฉติฯ อิมสฺมิํ ญาเณ ฐิตสฺส โอภาสาทโย ทส วิปสฺสนูปกฺกิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ, เยสํ อุปฺปตฺติยา อกุสโล โยคาวจโร เตสุ มคฺคญาณสญฺญี หุตฺวา อมคฺคเมว ‘‘มคฺโค’’ติ คณฺหาติ, อุปกฺกิเลสชฏาชฏิโต จ โหติฯ กุสโล ปน โยคาวจโร เตสุ วิปสฺสนํ อาโรเปนฺโต อุปกฺกิเลสชฏํ วิชเฏตฺวา ‘‘เอเต ธมฺมา น มคฺโค, อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ ปน วีถิปฏิปนฺนํ วิปสฺสนาญาณํ มคฺโค’’ติ มคฺคญฺจ อมคฺคญฺจ ววตฺถเปติฯ ตสฺเสวํ มคฺคญฺจ อมคฺคญฺจ ญตฺวา ฐิตํ ญาณํ มคฺคามคฺคญาณทสฺสนวิสุทฺธิ นามฯ

เอตฺตาวตา จ ปน เตน จตุนฺนํ สจฺจานํ ววตฺถานํ กตํ โหติฯ

กถํ? นามรูปปริคฺคเห สติ ปจฺจยปริคฺคหสมฺภวโต ธมฺมฏฺฐิติญาณวจเนเนว วุตฺเตน ทิฏฺฐิวิสุทฺธิสงฺขาเตน นามรูปววตฺถาปเนน ทุกฺขสจฺจสฺส ววตฺถานํ กตํ โหติ, กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิสงฺขาเตน ปจฺจยปริคฺคหเณน สมุทยสจฺจสฺส ววตฺถานํ, อุทยพฺพยานุปสฺสเนน จ ขณโต อุทยพฺพยทสฺสเนน ทุกฺขสจฺจสฺส ววตฺถานํ กตํ, ปจฺจยโต อุทยทสฺสเนน สมุทยสจฺจสฺส ววตฺถานํ, ปจฺจยโต วยทสฺสเนน นิโรธสจฺจสฺส ววตฺถานํ, ยญฺจสฺส อุทยพฺพยทสฺสนํ, มคฺโควายํ โลกิโกติ ตตฺร สมฺโมหวิฆาตโต อิมิสฺสญฺจ มคฺคามคฺคญาณทสฺสนวิสุทฺธิยํ วิปสฺสโต สมฺมา มคฺคสฺส อวธารเณน มคฺคสจฺจสฺส ววตฺถานํ กตํฯ เอวํ โลกิเยน ตาว ญาเณน จตุนฺนํ สจฺจานํ ววตฺถานํ กตํ โหตีติฯ

อุทยพฺพยญาณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

7. ภงฺคานุปสฺสนาญาณนิทฺเทสวณฺณนา

[51] โส อุทยพฺพยานุปสฺสนายํ ฐิโต โยคาวจโร มคฺคามคฺคววตฺถาปเนน อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ วีถิปฏิปนฺนํ อุทยพฺพยานุปสฺสนาญาณํ ‘‘มคฺโค’’ติ ญตฺวา ติลกฺขณสลฺลกฺขเณน ตสฺเสว มคฺคสฺส สุวิสทกรณตฺถํ ปุน อุทยพฺพยานุปสฺสนํ อารภิตฺวา อุทยพฺพเยน ปริจฺฉินฺเน สงฺขาเร อนิจฺจาทิโต วิปสฺสติฯ เอวํ ตสฺส ตํ ญาณํ ติกฺขํ หุตฺวา วหติ, สงฺขารา ลหุํ อุปฏฺฐหนฺติ, ญาเณ ติกฺเข วหนฺเต สงฺขาเรสุ ลหุํ อุปฏฺฐหนฺเตสุ อุปฺปาทํ อติกฺกมิตฺวา ภงฺเค เอว สติ สนฺติฏฺฐติฯ นิโรธาธิมุตฺตตฺตา วา อุทยํ ปหาย ภงฺเคเยว สติํ อุปฏฺฐเปติฯ เอตสฺมิํ ฐาเน ภงฺคานุปสฺสนาญาณํ อุปฺปชฺชติฯ อิทานิ ตสฺส ญาณสฺส นิทฺเทเส รูปารมฺมณตา จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชตีติ รูปารมฺมณํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชติฯ อถ วา รูปารมฺมณภาเว จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชตีติ อตฺโถฯ ตํ อารมฺมณํ ปฏิสงฺขาติ ตํ รูปารมฺมณํ ปฏิสงฺขาย ชานิตฺวา, ขยโต วยโต ทิสฺวาติ อตฺโถฯ ตสฺส จิตฺตสฺส ภงฺคํ อนุปสฺสตีติ เยน จิตฺเตน ตํ รูปารมฺมณํ ขยโต วยโต ทิฏฺฐํ, ตสฺส จิตฺตสฺส อปเรน จิตฺเตน ภงฺคํ อนุปสฺสตีติ อตฺโถฯ เตนาหุ โปราณา – ‘‘ญาตญฺจ ญาณญฺจ อุโภ วิปสฺสตี’’ติฯ จิตฺตนฺติ เจตฺถ สสมฺปยุตฺตจิตฺตํ อธิปฺเปตํฯ

อนุปสฺสตีติ อนุ อนุ ปสฺสติ, อเนเกหิ อากาเรหิ ปุนปฺปุนํ ปสฺสตีติ อตฺโถฯ