เมนู

‘เอวํ สนฺเต, โภ, ชานาถ – เก ตุมฺเห โหถา’ติ? ‘เอวํ สนฺเต, โภ , น มยํ ชานาม – เก มยํ โหมา’ติฯ เต หิ นาม, อสฺสลายน, สตฺต พฺราหฺมณิสโย อสิเตน เทวเลน อิสินา สเก ชาติวาเท สมนุยุญฺชียมานา สมนุคฺคาหียมานา สมนุภาสียมานา น สมฺปายิสฺสนฺติ; กิํ ปน ตฺวํ เอตรหิ มยา สกสฺมิํ ชาติวาเท สมนุยุญฺชียมาโน สมนุคฺคาหียมาโน สมนุภาสียมาโน สมฺปายิสฺสสิ, เยสํ ตฺวํ สาจริยโก น ปุณฺโณ ทพฺพิคาโห’’ติฯ

เอวํ วุตฺเต, อสฺสลายโน มาณโว ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ

อสฺสลายนสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ตติยํฯ

4. โฆฏมุขสุตฺตํ

[412] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา อุเทโน พาราณสิยํ วิหรติ เขมิยมฺพวเนฯ เตน โข ปน สมเยน โฆฏมุโข พฺราหฺมโณ พาราณสิํ อนุปฺปตฺโต โหติ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อถ โข โฆฏมุโข พฺราหฺมโณ ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน เยน เขมิยมฺพวนํ เตนุปสงฺกมิฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุเทโน อพฺโภกาเส จงฺกมติฯ อถ โข โฆฏมุโข พฺราหฺมโณ เยนายสฺมา อุเทโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อุเทเนน สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา อายสฺมนฺตํ อุเทนํ จงฺกมนฺตํ อนุจงฺกมมาโน เอวมาห – ‘‘อมฺโภ สมณ, ‘นตฺถิ ธมฺมิโก ปริพฺพโช’ [ปริพฺพาโช (สี. ปี.)] – เอวํ เม เอตฺถ โหติฯ ตญฺจ โข ภวนฺตรูปานํ วา อทสฺสนา, โย วา ปเนตฺถ ธมฺโม’’ติฯ

เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อุเทโน จงฺกมา โอโรหิตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ โฆฏมุโขปิ โข พฺราหฺมโณ จงฺกมา โอโรหิตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิตํ โข โฆฏมุขํ พฺราหฺมณํ อายสฺมา อุเทโน เอตทโวจ – ‘‘สํวิชฺชนฺติ [สํวิชฺชนฺเต (พหูสุ)] โข, พฺราหฺมณ, อาสนานิฯ สเจ อากงฺขสิ, นิสีทา’’ติฯ

‘‘เอตเทว โข ปน มยํ โภโต อุเทนสฺส อาคมยมานา (น) นิสีทามฯ กถญฺหิ นาม มาทิโส ปุพฺเพ อนิมนฺติโต อาสเน นิสีทิตพฺพํ มญฺเญยฺยา’’ติ? อถ โข โฆฏมุโข พฺราหฺมโณ อญฺญตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โฆฏมุโข พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อุเทนํ เอตทโวจ – ‘‘อมฺโภ สมณ, ‘นตฺถิ ธมฺมิโก ปริพฺพโช’ – เอวํ เม เอตฺถ โหติฯ ตญฺจ โข ภวนฺตรูปานํ วา อทสฺสนา, โย วา ปเนตฺถ ธมฺโม’’ติฯ ‘‘สเจ โข ปน เม ตฺวํ, พฺราหฺมณ, อนุญฺเญยฺยํ อนุชาเนยฺยาสิ, ปฏิกฺโกสิตพฺพญฺจ ปฏิกฺโกเสยฺยาสิ; ยสฺส จ ปน เม ภาสิตสฺส อตฺถํ น ชาเนยฺยาสิ, มมํเยว ตตฺถ อุตฺตริ ปฏิปุจฺเฉยฺยาสิ – ‘อิทํ, โภ อุเทน, กถํ, อิมสฺส กฺวตฺโถ’ติ? เอวํ กตฺวา สิยา โน เอตฺถ กถาสลฺลาโป’’ติฯ ‘‘อนุญฺเญยฺยํ ขฺวาหํ โภโต อุเทนสฺส อนุชานิสฺสามิ, ปฏิกฺโกสิตพฺพญฺจ ปฏิกฺโกสิสฺสามิ; ยสฺส จ ปนาหํ โภโต อุเทนสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ น ชานิสฺสามิ, ภวนฺตํเยว ตตฺถ อุเทนํ อุตฺตริ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ – ‘อิทํ, โภ อุเทน, กถํ, อิมสฺส กฺวตฺโถ’ติ? เอวํ กตฺวา โหตุ โน เอตฺถ กถาสลฺลาโป’’ติฯ

[413] ‘‘จตฺตาโรเม, พฺราหฺมณ, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม จตฺตาโร? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโตฯ อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ปรนฺตโป โหติ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโตฯ อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโตฯ อิธ ปน, พฺราหฺมณ , เอกจฺโจ ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป โหติ นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต, น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโตฯ โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเฐว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติฯ อิเมสํ, พฺราหฺมณ, จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ กตโม เต ปุคฺคโล จิตฺตํ อาราเธตี’’ติ?

‘‘ยฺวายํ, โภ อุเทน, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต อยํ เม ปุคฺคโล จิตฺตํ นาราเธติ; โยปายํ, โภ อุเทน, ปุคฺคโล ปรนฺตโป ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต อยมฺปิ เม ปุคฺคโล จิตฺตํ นาราเธติ; โยปายํ, โภ อุเทน, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต อยมฺปิ เม ปุคฺคโล จิตฺตํ นาราเธติ; โย จ โข อยํ, โภ อุเทน, ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเฐว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติฯ อยเมว เม ปุคฺคโล จิตฺตํ อาราเธตี’’ติฯ

‘‘กสฺมา ปน เต, พฺราหฺมณ, อิเม ตโย ปุคฺคลา จิตฺตํ นาราเธนฺตี’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, โภ อุเทน, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต โส อตฺตานํ สุขกามํ ทุกฺขปฏิกฺกูลํ อาตาเปติ ปริตาเปติ; อิมินา เม อยํ ปุคฺคโล จิตฺตํ นาราเธติฯ โยปายํ , โภ อุเทน, ปุคฺคโล ปรนฺตโป ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต โส ปรํ สุขกามํ ทุกฺขปฏิกฺกูลํ อาตาเปติ ปริตาเปติ; อิมินา เม อยํ ปุคฺคโล จิตฺตํ นาราเธติฯ โยปายํ, โภ อุเทน, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต โส อตฺตานญฺจ ปรญฺจ สุขกามํ ทุกฺขปฏิกฺกูลํ อาตาเปติ ปริตาเปติ; อิมินา เม อยํ ปุคฺคโล จิตฺตํ นาราเธติฯ โย จ โข อยํ, โภ อุเทน, ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเฐว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติ, โส อตฺตานญฺจ ปรญฺจ สุขกามํ ทุกฺขปฏิกฺกูลํ เนว อาตาเปติ น ปริตาเปติ; อิมินา เม อยํ ปุคฺคโล จิตฺตํ อาราเธตี’’ติฯ

[414] ‘‘ทฺเวมา, พฺราหฺมณ, ปริสาฯ กตมา ทฺเว? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺจา ปริสา สารตฺตรตฺตา มณิกุณฺฑเลสุ ปุตฺตภริยํ ปริเยสติ, ทาสิทาสํ ปริเยสติ, เขตฺตวตฺถุํ ปริเยสติ, ชาตรูปรชตํ ปริเยสติฯ

‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺจา ปริสา อสารตฺตรตฺตา มณิกุณฺฑเลสุ ปุตฺตภริยํ ปหาย, ทาสิทาสํ ปหาย, เขตฺตวตฺถุํ ปหาย, ชาตรูปรชตํ ปหาย, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตาฯ สฺวายํ, พฺราหฺมณ, ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโตฯ

โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเฐว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติฯ อิธ กตมํ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, ปุคฺคลํ กตมาย ปริสาย พหุลํ สมนุปสฺสสิ – ยา จายํ ปริสา สารตฺตรตฺตา มณิกุณฺฑเลสุ ปุตฺตภริยํ ปริเยสติ ทาสิทาสํ ปริเยสติ เขตฺตวตฺถุํ ปริเยสติ ชาตรูปรชตํ ปริเยสติ, ยา จายํ ปริสา อสารตฺตรตฺตา มณิกุณฺฑเลสุ ปุตฺตภริยํ ปหาย ทาสิทาสํ ปหาย เขตฺตวตฺถุํ ปหาย ชาตรูปรชตํ ปหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา’’ติ?

‘‘ยฺวายํ , โภ อุเทน, ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเฐว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติ; อิมาหํ ปุคฺคลํ ยายํ ปริสา อสารตฺตรตฺตา มณิกุณฺฑเลสุ ปุตฺตภริยํ ปหาย ทาสิทาสํ ปหาย เขตฺตวตฺถุํ ปหาย ชาตรูปรชตํ ปหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา อิมิสฺสํ ปริสายํ พหุลํ สมนุปสฺสามี’’ติฯ

‘‘อิทาเนว โข ปน เต, พฺราหฺมณ, ภาสิตํ – ‘มยํ เอวํ อาชานาม – อมฺโภ สมณ, นตฺถิ ธมฺมิโก ปริพฺพโช, เอวํ เม เอตฺถ โหติฯ ตญฺจ โข ภวนฺตรูปานํ วา อทสฺสนา, โย วา ปเนตฺถ ธมฺโม’’’ติฯ ‘‘อทฺธา เมสา, โภ อุเทน, สานุคฺคหา วาจา ภาสิตาฯ ‘อตฺถิ ธมฺมิโก ปริพฺพโช’ – เอวํ เม เอตฺถ โหติฯ เอวญฺจ ปน มํ ภวํ อุเทโน ธาเรตุฯ เย จ เม โภตา อุเทเนน จตฺตาโร ปุคฺคลา สํขิตฺเตน วุตฺตา วิตฺถาเรน อวิภตฺตา, สาธุ เม ภวํ, อุเทโน อิเม จตฺตาโร ปุคฺคเล วิตฺถาเรน วิภชตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โฆฏมุโข พฺราหฺมโณ อายสฺมโต อุเทนสฺส ปจฺจสฺโสสิฯ อายสฺมา อุเทโน เอตทโวจ –

[415] ‘‘กตโม จ, พฺราหฺมณ, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อเจลโก โหติ มุตฺตาจาโร หตฺถาปเลขโน นเอหิภทฺทนฺติโก นติฏฺฐภทฺทนฺติโก, นาภิหฏํ น อุทฺทิสฺสกตํ น นิมนฺตนํ สาทิยติฯ

โส น กุมฺภิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น กโฬปิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น เอฬกมนฺตรํ, น ทณฺฑมนฺตรํ, น มุสลมนฺตรํ, น ทฺวินฺนํ ภุญฺชมานานํ, น คพฺภินิยา, น ปายมานาย , น ปุริสนฺตรคตาย, น สงฺกิตฺตีสุ, น ยตฺถ สา อุปฏฺฐิโต โหติ, น ยตฺถ มกฺขิกา สณฺฑสณฺฑจารินี, น มจฺฉํ น มํสํ, น สุรํ น เมรยํ น ถุโสทกํ ปิวติฯ โส เอกาคาริโก วา โหติ เอกาโลปิโก, ทฺวาคาริโก วา โหติ ทฺวาโลปิโก…เป.… สตฺตาคาริโก วา โหติ สตฺตาโลปิโก; เอกิสฺสาปิ ทตฺติยา ยาเปติ, ทฺวีหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ…เป.… สตฺตหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ; เอกาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ, ทฺวีหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ…เป.… สตฺตาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ – อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกํ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ โส สากภกฺโข วา โหติ, สามากภกฺโข วา โหติ, นีวารภกฺโข วา โหติ, ททฺทุลภกฺโข วา โหติ , หฏภกฺโข วา โหติ, กณภกฺโข วา โหติ, อาจามภกฺโข วา โหติ, ปิญฺญากภกฺโข วา โหติ, ติณภกฺโข วา โหติ, โคมยภกฺโข วา โหติ, วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชีฯ โส สาณานิปิ ธาเรติ, มสาณานิปิ ธาเรติ, ฉวทุสฺสานิปิ ธาเรติ, ปํสุกูลานิปิ ธาเรติ, ติรีฏานิปิ ธาเรติ, อชินมฺปิ ธาเรติ, อชินกฺขิปมฺปิ ธาเรติ, กุสจีรมฺปิ ธาเรติ, วากจีรมฺปิ ธาเรติ, ผลกจีรมฺปิ ธาเรติ, เกสกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, วาฬกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, อุลูกปกฺขมฺปิ ธาเรติ; เกสมสฺสุโลจโกปิ โหติ เกสมสฺสุโลจนานุโยคมนุยุตฺโต , อุพฺภฏฺฐโกปิ โหติ อาสนปฏิกฺขิตฺโต, อุกฺกุฏิโกปิ โหติ อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโต, กณฺฏกาปสฺสยิโกปิ โหติ กณฺฏกาปสฺสเย เสยฺยํ กปฺเปติ; สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ – อิติ เอวรูปํ อเนกวิหิตํ กายสฺส อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโตฯ

[416] ‘‘กตโม จ, พฺราหฺมณ, ปุคฺคโล ปรนฺตโป ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล โอรพฺภิโก โหติ สูกริโก สากุณิโก มาควิโก ลุทฺโท มจฺฉฆาตโก โจโร โจรฆาตโก โคฆาตโก พนฺธนาคาริโก – เย วา ปนญฺเญปิ เกจิ กุรูรกมฺมนฺตาฯ อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ปุคฺคโล ปรนฺตโป ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโตฯ

[417] ‘‘กตโม จ, พฺราหฺมณ, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต, ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ราชา วา โหติ ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต, พฺราหฺมโณ วา มหาสาโลฯ โส ปุรตฺถิเมน นครสฺส นวํ สนฺถาคารํ การาเปตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา ขราชินํ นิวาเสตฺวา สปฺปิเตเลน กายํ อพฺภญฺชิตฺวา มควิสาเณน ปิฏฺฐิํ กณฺฑุวมาโน นวํ สนฺถาคารํ ปวิสติ สทฺธิํ มเหสิยา พฺราหฺมเณน จ ปุโรหิเตนฯ โส ตตฺถ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา หริตุปลิตฺตาย เสยฺยํ กปฺเปติฯ เอกิสฺสาย คาวิยา สรูปวจฺฉาย ยํ เอกสฺมิํ ถเน ขีรํ โหติ เตน ราชา ยาเปติ, ยํ ทุติยสฺมิํ ถเน ขีรํ โหติ เตน มเหสี ยาเปติ, ยํ ตติยสฺมิํ ถเน ขีรํ โหติ เตน พฺราหฺมโณ ปุโรหิโต ยาเปติ, ยํ จตุตฺถสฺมิํ ถเน ขีรํ โหติ เตน อคฺคิํ ชุหติ, อวเสเสน วจฺฉโก ยาเปติฯ โส เอวมาห – ‘เอตฺตกา อุสภา หญฺญนฺตุ ยญฺญตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตรา หญฺญนฺตุ ยญฺญตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตริโย หญฺญนฺตุ ยญฺญตฺถาย, เอตฺตกา อชา หญฺญนฺตุ ยญฺญตฺถาย’, เอตฺตกา อุรพฺภา หญฺญนฺตุ ยญฺญตฺถาย, เอตฺตกา อสฺสา หญฺญนฺตุ ยญฺญตฺถาย, เอตฺตกา รุกฺขา ฉิชฺชนฺตุ ยูปตฺถาย, เอตฺตกา ทพฺภา ลูยนฺตุ พริหิสตฺถายา’ติฯ เยปิสฺส เต โหนฺติ ‘ทาสา’ติ วา ‘เปสฺสา’ติ วา ‘กมฺมกรา’ติ วา เตปิ ทณฺฑตชฺชิตา ภยตชฺชิตา อสฺสุมุขา รุทมานา ปริกมฺมานิ กโรนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต , ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโตฯ

[418] ‘‘กตโม จ, พฺราหฺมณ, ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต, น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต; โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเฐว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติ? อิธ, พฺราหฺมณ, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ

โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อญฺญตรสฺมิํ วา กุเล ปจฺจาชาโตฯ โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติฯ โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รโชปโถ อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชาฯ นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํฯ ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติฯ โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย, อปฺปํ วา ญาติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา ญาติปริวฏฺฏํ ปหาย, เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติฯ โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติฯ

‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขีฯ อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรติฯ

‘‘อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี โหติ อาราจารี วิรโต เมถุนา คามธมฺมาฯ

‘‘มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺสฯ

‘‘ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ; อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทายฯ อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา, สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณิํ วาจํ ภาสิตา โหติฯ

‘‘ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติฯ ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปิํ วาจํ ภาสิตา โหติฯ

‘‘สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวติํ วาจํ ภาสิตา กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวติํ อตฺถสํหิตํฯ

‘‘โส พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหติ ฯ เอกภตฺติโก โหติ รตฺตูปรโต วิรโต วิกาลโภชนาฯ นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต โหติฯ มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺฐานา ปฏิวิรโต โหติฯ อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต โหติฯ ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติฯ อามกธญฺญปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติฯ อามกมํสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติฯ อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติฯ ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติฯ อเชฬกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติฯ กุกฺกุฏสูกรปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติฯ หตฺถิควสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติฯ เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติฯ ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต โหติฯ กยวิกฺกยา ปฏิวิรโต โหติฯ ตุลากูฏกํสกูฏมานกูฏา ปฏิวิรโต โหติฯ อุกฺโกฏนวญฺจนนิกติสาจิโยคา ปฏิวิรโต โหติฯ เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรโต โหติฯ

‘‘โส สนฺตุฏฺโฐ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน, กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตนฯ โส เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติฯ เสยฺยถาปิ นาม ปกฺขี สกุโณ เยน เยเนว เฑติ สปตฺตภาโรว เฑติ, เอวเมว ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโฐ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน, กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตนฯ โส เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติฯ โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฏิสํเวเทติฯ

[419] ‘‘โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยญฺชนคฺคาหีฯ ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป.… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญายน น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยญฺชนคฺคาหี

ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติฯ โส อิมินา อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อพฺยาเสกสุขํ ปฏิสํเวเทติฯ

‘‘โส อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิญฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ฐิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติฯ

‘‘โส อิมินา จ อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต, (อิมาย จ อริยาย สนฺตุฏฺฐิยา สมนฺนาคโต,) [ปสฺส ม. นิ. 1.296] อิมินา จ อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน สติสมฺปชญฺเญน สมนฺนาคโต วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรญฺญํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุญฺชํฯ โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา, อุชุํ กายํ ปณิธาย, ปริมุขํ สติํ อุปฏฺฐเปตฺวาฯ โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ; พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ; ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถีนมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสญฺญี สโต สมฺปชาโน, ถีนมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ; อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ; วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติฯ

‘‘โส อิเม ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ

ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขญฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ , ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา, อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ

[420] ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติฯ โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาติํ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปญฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ติํสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปญฺญาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ, อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสิํ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต; โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทิํ; ตตฺราปาสิํ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต; โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติฯ อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติฯ

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติฯ โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา…เป.… อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺฐิกา มิจฺฉาทิฏฺฐิกมฺมสมาทานา , เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนาฯ อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา…เป.… อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺฐิกา สมฺมาทิฏฺฐิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติฯ อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติฯ

‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติฯ โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ; ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติฯ วิมุตฺตสฺมิํ วิมุตฺตมิติ ญาณํ โหติฯ ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติฯ

‘‘อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต, น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโตฯ โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเฐว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรตี’’ติฯ

[421] เอวํ วุตฺเต, โฆฏมุโข พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อุเทนํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ อุเทน, อภิกฺกนฺตํ, โภ อุเทน! เสยฺยถาปิ, โภ อุเทน, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ – เอวเมวํ โภตา อุเทเนน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตฯ เอสาหํ ภวนฺตํ อุเทนํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภวํ อุเทโน ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ ‘‘มา โข มํ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, สรณํ อคมาสิฯ ตเมว ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาหิ ยมหํ สรณํ คโต’’ติฯ ‘‘กหํ ปน, โภ อุเทน, เอตรหิ โส ภวํ โคตโม วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ? ‘‘ปรินิพฺพุโต โข, พฺราหฺมณ, เอตรหิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติฯ

‘‘สเจปิ [สเจ หิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มยํ, โภ อุเทน, สุเณยฺยาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสสุ โยชเนสุ, ทสปิ มยํ โยชนานิ คจฺเฉยฺยาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํฯ สเจปิ [สเจ (สี. ปี.), สเจ หิ (สฺยา. กํ.)] มยํ, โภ อุเทน, สุเณยฺยาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ วีสติยา โยชเนสุ… ติํสาย โยชเนสุ… จตฺตารีสาย โยชเนสุ… ปญฺญาสาย โยชเนสุ, ปญฺญาสมฺปิ มยํ โยชนานิ คจฺเฉยฺยาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํฯ โยชนสเต เจปิ [โยชนสเตปิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มยํ , โภ อุเทน, สุเณยฺยาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ, โยชนสตมฺปิ มยํ คจฺเฉยฺยาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํฯ

‘‘ยโต จ โข, โภ อุเทน, ปรินิพฺพุโต โส ภวํ โคตโม, ปรินิพฺพุตมฺปิ มยํ ตํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภวํ อุเทโน ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตํฯ อตฺถิ จ เม, โภ อุเทน, องฺคราชา เทวสิกํ นิจฺจภิกฺขํ ททาติ , ตโต อหํ โภโต อุเทนสฺส เอกํ นิจฺจภิกฺขํ ททามี’’ติฯ ‘‘กิํ ปน เต, พฺราหฺมณ, องฺคราชา เทวสิกํ นิจฺจภิกฺขํ ททาตี’’ติ? ‘‘ปญฺจ, โภ อุเทน, กหาปณสตานี’’ติฯ ‘‘น โข โน, พฺราหฺมณ, กปฺปติ ชาตรูปรชตํ ปฏิคฺคเหตุ’’นฺติฯ ‘‘สเจ ตํ โภโต อุเทนสฺส น กปฺปติ วิหารํ โภโต อุเทนสฺส การาเปสฺสามี’’ติฯ ‘‘สเจ โข เม ตฺวํ, พฺราหฺมณ, วิหารํ, การาเปตุกาโม, ปาฏลิปุตฺเต สงฺฆสฺส อุปฏฺฐานสาลํ การาเปหี’’ติฯ ‘‘อิมินาปาหํ โภโต อุเทนสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย อตฺตมโน อภิรทฺโธ ยํ มํ ภวํ อุเทโน สงฺเฆ ทาเน สมาทเปติฯ เอสาหํ, โภ อุเทน, เอติสฺสา จ นิจฺจภิกฺขาย อปราย จ นิจฺจภิกฺขาย ปาฏลิปุตฺเต สงฺฆสฺส อุปฏฺฐานสาลํ การาเปสฺสามี’’ติฯ อถ โข โฆฏมุโข พฺราหฺมโณ เอติสฺสา จ นิจฺจภิกฺขาย อปราย จ นิจฺจภิกฺขาย ปาฏลิปุตฺเต สงฺฆสฺส อุปฏฺฐานสาลํ การาเปสิฯ สา เอตรหิ ‘โฆฏมุขี’ติ วุจฺจตีติฯ

โฆฏมุขสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ จตุตฺถํฯ

5. จงฺกีสุตฺตํ

[422] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ เยน โอปาสาทํ นาม โกสลานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา โอปาสาเท วิหรติ อุตฺตเรน โอปาสาทํ เทววเน สาลวเนฯ เตน โข ปน สมเยน จงฺกี พฺราหฺมโณ โอปาสาทํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโฐทกํ สธญฺญํ ราชโภคฺคํ รญฺญา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺนํ ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํฯ อสฺโสสุํ โข โอปาสาทกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ โอปาสาทํ อนุปฺปตฺโต, โอปาสาเท วิหรติ อุตฺตเรน โอปาสาทํ เทววเน สาลวเนฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติฯ

[423] อถ โข โอปาสาทกา พฺราหฺมณคหปติกา โอปาสาทา นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา อุตฺตเรนมุขา คจฺฉนฺติ เยน เทววนํ สาลวนํฯ เตน โข ปน สมเยน จงฺกี พฺราหฺมโณ อุปริปาสาเท ทิวาเสยฺยํ อุปคโตฯ อทฺทสา โข จงฺกี พฺราหฺมโณ โอปาสาทเก พฺราหฺมณคหปติเก โอปาสาทา นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูเต อุตฺตเรน มุขํ เยน เทววนํ สาลวนํ เตนุปสงฺกมนฺเตฯ ทิสฺวา ขตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘กิํ นุ โข, โภ ขตฺเต, โอปาสาทกา พฺราหฺมณคหปติกา โอปาสาทา นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา อุตฺตเรนมุขา คจฺฉนฺติ เยน เทววนํ สาลวน’’นฺติ? ‘‘อตฺถิ, โภ จงฺกี, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ โอปาสาทํ อนุปฺปตฺโต, โอปาสาเท วิหรติ อุตฺตเรน โอปาสาทํ เทววเน สาลวเนฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติฯ