เมนู

อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘พฺรหฺมายุ, ภนฺเต, พฺราหฺมโณ กาลงฺกโตฯ ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’’ติ? ‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ปจฺจปาทิ ธมฺมสฺสานุธมฺมํ, น จ มํ ธมฺมาธิกรณํ วิเหเสสิฯ พฺรหฺมายุ, ภิกฺขเว, พฺราหฺมโณ ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี, อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา’’ติฯ

อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ

พฺรหฺมายุสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ปฐมํฯ

2. เสลสุตฺตํ

[396] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน อาปณํ นาม องฺคุตฺตราปานํ นิคโม ตทวสริฯ อสฺโสสิ โข เกณิโย ชฏิโล – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ อาปณํ อนุปฺปตฺโตฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’’ติฯ

อถ โข เกณิโย ชฏิโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ

สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข เกณิยํ ชฏิลํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ ฯ อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติฯ เอวํ วุตฺเต, ภควา เกณิยํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘มหา โข, เกณิย, ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ, ตฺวญฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิญฺจาปิ โข, โภ โคตม, มหา ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ, อหญฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน; อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข ภควา เกณิยํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘มหา โข, เกณิย, ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ, ตฺวญฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน’’ติฯ ตติยมฺปิ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิญฺจาปิ โข, โภ โคตม, มหา ภิกฺขุสงฺโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ, อหญฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน; อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ ฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา เยน สโก อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มิตฺตามจฺเจ ญาติสาโลหิเต อามนฺเตสิ – ‘‘สุณนฺตุ เม โภนฺโต, มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา; สมโณ เม โคตโม นิมนฺติโต สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนฯ เยน เม กายเวยฺยาวฏิกํ [กายเวยาวฏฺฏิกํ (สี. สฺยา. กํ.), กายเวยฺยาวติกํ (ก.)] กเรยฺยาถา’’ติฯ ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข เกณิยสฺส ชฏิลสฺส มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา เกณิยสฺส ชฏิลสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อปฺเปกจฺเจ อุทฺธนานิ ขณนฺติ, อปฺเปกจฺเจ กฏฺฐานิ ผาเลนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ภาชนานิ โธวนฺติ, อปฺเปกจฺเจ อุทกมณิกํ ปติฏฺฐาเปนฺติ, อปฺเปกจฺเจ อาสนานิ ปญฺญเปนฺติฯ เกณิโย ปน ชฏิโล สามํเยว มณฺฑลมาลํ ปฏิยาเทติฯ

[397] เตน โข ปน สมเยน เสโล พฺราหฺมโณ อาปเณ ปฏิวสติ ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ , ปทโก, เวยฺยากรโณ, โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย, ตีณิ จ มาณวกสตานิ มนฺเต วาเจติฯ เตน โข ปน สมเยน เกณิโย ชฏิโล เสเล พฺราหฺมเณ อภิปฺปสนฺโน โหติฯ อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ ตีหิ มาณวกสเตหิ ปริวุโต ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน เยน เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสโม เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสา โข เสโล พฺราหฺมโณ เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสเม อปฺเปกจฺเจ อุทฺธนานิ ขณนฺเต, อปฺเปกจฺเจ กฏฺฐานิ ผาเลนฺเต, อปฺเปกจฺเจ ภาชนานิ โธวนฺเต, อปฺเปกจฺเจ อุทกมณิกํ ปติฏฺฐาเปนฺเต, อปฺเปกจฺเจ อาสนานิ ปญฺญเปนฺเต, เกณิยํ ปน ชฏิลํ สามํเยว มณฺฑลมาลํ ปฏิยาเทนฺตํฯ ทิสฺวาน เกณิยํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘กิํ นุ โภโต เกณิยสฺส อาวาโห วา ภวิสฺสติ วิวาโห วา ภวิสฺสติ มหายญฺโญ วา ปจฺจุปฏฺฐิโต, ราชา วา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร นิมนฺติโต สฺวาตนาย สทฺธิํ พลกาเยนา’’ติ? ‘‘น เม, โภ เสล, อาวาโห ภวิสฺสติ นปิ วิวาโห ภวิสฺสติ นปิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร นิมนฺติโต สฺวาตนาย สทฺธิํ พลกาเยน; อปิ จ โข เม มหายญฺโญ ปจฺจุปฏฺฐิโตฯ อตฺถิ, โภ, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ อาปณํ อนุปฺปตฺโตฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติฯ โส เม นิมนฺติโต สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติฯ

‘‘พุทฺโธติ – โภ เกณิย, วเทสิ’’?

‘‘พุทฺโธติ – โภ เสล, วทามิ’’ฯ

‘‘พุทฺโธติ – โภ เกณิย, วเทสิ’’?

‘‘พุทฺโธติ – โภ เสล, วทามี’’ติฯ

[398] อถ โข เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘โฆโสปิ โข เอโส ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ – ยทิทํ ‘พุทฺโธ’ติ [ยทิทํ พุทฺโธ พุทฺโธติ (ก.)]

อาคตานิ โข ปนมฺหากํ มนฺเตสุ ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวเยว คติโย ภวนฺติ อนญฺญาฯ สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโตฯ ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวนฺติ, เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ, หตฺถิรตนํ, อสฺสรตนํ, มณิรตนํ, อิตฺถิรตนํ, คหปติรตนํ, ปริณายกรตนเมว สตฺตมํฯ ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนาฯ โส อิมํ ปถวิํ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติฯ สเจ ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท’’ฯ

‘‘กหํ ปน, โภ เกณิย, เอตรหิ โส ภวํ โคตโม วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ? เอวํ วุตฺเต, เกณิโย ชฏิโล ทกฺขิณํ พาหุํ ปคฺคเหตฺวา เสลํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘เยเนสา, โภ เสล, นีลวนราชี’’ติฯ อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ ตีหิ มาณวกสเตหิ สทฺธิํ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิฯ อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ เต มาณวเก อามนฺเตสิ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต อาคจฺฉนฺตุ ปเท ปทํ [ปาเท ปาทํ (สี.)] นิกฺขิปนฺตา; ทุราสทา [ทูรสทฺทา (ก.)] หิ เต ภควนฺโต สีหาว เอกจราฯ ยทา จาหํ, โภ, สมเณน โคตเมน สทฺธิํ มนฺเตยฺยํ, มา เม โภนฺโต อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตถฯ กถาปริโยสานํ เม ภวนฺโต อาคเมนฺตู’’ติฯ อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เสโล พฺราหฺมโณ ภควโต กาเย ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ สมนฺเนสิฯ

อทฺทสา โข เสโล พฺราหฺมโณ ภควโต กาเย ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ, เยภุยฺเยน ฐเปตฺวา ทฺเวฯ ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห, ปหูตชิวฺหตาย จฯ อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ปสฺสติ โข เม อยํ เสโล พฺราหฺมโณ ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ, เยภุยฺเยน ฐเปตฺวา ทฺเวฯ

ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห, ปหูตชิวฺหตาย จา’’ติฯ อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ, ยถา อทฺทส เสโล พฺราหฺมโณ ภควโต โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํฯ อถ โข ภควา ชิวฺหํ นินฺนาเมตฺวา อุโภปิ กณฺณโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ; อุโภปิ นาสิกโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ; เกวลมฺปิ นลาฏมณฺฑลํ ชิวฺหาย ฉาเทสิฯ อถ โข เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สมนฺนาคโต โข สมโณ โคตโม ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขเณหิ ปริปุณฺเณหิ, โน อปริปุณฺเณหิ; โน จ โข นํ ชานามิ พุทฺโธ วา โน วาฯ สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘เย เต ภวนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา เต สเก วณฺเณ ภญฺญมาเน อตฺตานํ ปาตุกโรนฺตี’ติฯ ยํนูนาหํ สมณํ โคตมํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถเวยฺย’’นฺติฯ

[399] อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถวิ –

‘‘ปริปุณฺณกาโย สุรุจิ, สุชาโต จารุทสฺสโน;

สุวณฺณวณฺโณสิ ภควา, สุสุกฺกทาโฐสิ วีริยวา [วิริยวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]

‘‘นรสฺส หิ สุชาตสฺส, เย ภวนฺติ วิยญฺชนา;

สพฺเพ เต ตว กายสฺมิํ, มหาปุริสลกฺขณาฯ

‘‘ปสนฺนเนตฺโต สุมุโข, พฺรหา [พฺรหฺมา (สฺยา. กํ. ก.)] อุชุ ปตาปวา;

มชฺเฌ สมณสงฺฆสฺส, อาทิจฺโจว วิโรจสิฯ

‘‘กลฺยาณทสฺสโน ภิกฺขุ, กญฺจนสนฺนิภตฺตโจ;

กิํ เต สมณภาเวน, เอวํ อุตฺตมวณฺณิโนฯ

‘‘ราชา อรหสิ ภวิตุํ, จกฺกวตฺตี รเถสโภ;

จาตุรนฺโต วิชิตาวี, ชมฺพุสณฺฑสฺส [ชมฺพุมณฺฑสฺส (ก.)] อิสฺสโรฯ

‘‘ขตฺติยา โภคิราชาโน, อนุยนฺตา [อนุยุตฺตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภวนฺตุ เต;

ราชาภิราชา มนุชินฺโท, รชฺชํ กาเรหิ โคตม’’ฯ

‘‘ราชาหมสฺมิ เสลาติ, ธมฺมราชา อนุตฺตโร;

ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ, จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยํ’’ฯ

‘‘สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสิ, ธมฺมราชา อนุตฺตโร;

‘ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ’, อิติ ภาสสิ โคตมฯ

‘‘โก นุ เสนาปติ โภโต, สาวโก สตฺถุรนฺวโย;

โก เต ตมนุวตฺเตติ, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ’’ฯ

‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺกํ, (เสลาติ ภควา ธมฺมจกฺกํ อนุตฺตรํ;

สาริปุตฺโต อนุวตฺเตติ, อนุชาโต ตถาคตํฯ

‘‘อภิญฺเญยฺยํ อภิญฺญาตํ, ภาเวตพฺพญฺจ ภาวิตํ;

ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณฯ

‘‘วินยสฺสุ มยิ กงฺขํ, อธิมุจฺจสฺสุ พฺราหฺมณ;

ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ, สมฺพุทฺธานํ อภิณฺหโสฯ

‘‘เยสํ เว ทุลฺลโภ โลเก, ปาตุภาโว อภิณฺหโส;

โสหํ พฺราหฺมณ สมฺพุทฺโธ, สลฺลกตฺโต อนุตฺตโรฯ

‘‘พฺรหฺมภูโต อติตุโล, มารเสนปฺปมทฺทโน;

สพฺพามิตฺเต วสี กตฺวา, โมทามิ อกุโตภโย’’ฯ

‘‘อิมํ โภนฺโต นิสาเมถ, ยถา ภาสติ จกฺขุมา;

สลฺลกตฺโต มหาวีโร, สีโหว นทตี วเนฯ

‘‘พฺรหฺมภูตํ อติตุลํ, มารเสนปฺปมทฺทนํ;

โก ทิสฺวา นปฺปสีเทยฺย, อปิ กณฺหาภิชาติโกฯ

‘‘โย มํ อิจฺฉติ อนฺเวตุ, โย วา นิจฺฉติ คจฺฉตุ;

อิธาหํ ปพฺพชิสฺสามิ, วรปญฺญสฺส สนฺติเก’’ฯ

‘‘เอตญฺเจ [เอวญฺเจ (สฺยา. กํ.)] รุจฺจติ โภโต, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนํ [สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน (กตฺถจิ สุตฺตนิปาเต)];

มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสาม, วรปญฺญสฺส สนฺติเก’’ฯ

‘‘พฺราหฺมณา ติสตา อิเม, ยาจนฺติ ปญฺชลีกตา;

พฺรหฺมจริยํ จริสฺสาม, ภควา ตว สนฺติเก’’ฯ

‘‘สฺวากฺขาตํ พฺรหฺมจริยํ, (เสลาติ ภควา สนฺทิฏฺฐิกมกาลิกํ;

ยตฺถ อโมฆา ปพฺพชฺชา, อปฺปมตฺตสฺส สิกฺขโต’’ติฯ

อลตฺถ โข เสโล พฺราหฺมโณ สปริโส ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํฯ

[400] อถ โข เกณิโย ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก อสฺสเม ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฏฺฐิตํ ภตฺต’’นฺติฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนฯ อถ โข เกณิโย ชฏิโล พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ, สมฺปวาเรสิฯ อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ อญฺญตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข เกณิยํ ชฏิลํ ภควา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –

‘‘อคฺคิหุตฺตมุขา ยญฺญา, สาวิตฺตี ฉนฺทโส มุขํ;

ราชา มุขํ มนุสฺสานํ, นทีนํ สาคโร มุขํฯ

‘‘นกฺขตฺตานํ มุขํ จนฺโท, อาทิจฺโจ ตปตํ มุขํ;

ปุญฺญํ อากงฺขมานานํ, สงฺโฆ เว ยชตํ มุข’’นฺติฯ

อถ โข ภควา เกณิยํ ชฏิลํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ

อถ โข อายสฺมา เสโล สปริโส เอโก วูปกฏฺโฐ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิฯ ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ อพฺภญฺญาสิฯ อญฺญตโร โข ปนายสฺมา เสโล สปริโส อรหตํ อโหสิฯ อถ โข อายสฺมา เสโล สปริโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

‘‘ยํ ตํ สรณมาคมฺม, อิโต อฏฺฐมิ จกฺขุมา;

สตฺตรตฺเตน [อนุตฺตเรน (ก.)] ภควา, ทนฺตมฺห ตว สาสเนฯ

‘‘ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา, ตุวํ มาราภิภู มุนิ;

ตุวํ อนุสเย เฉตฺวา, ติณฺโณ ตาเรสิมํ ปชํฯ

‘‘อุปธี เต สมติกฺกนฺตา, อาสวา เต ปทาลิตา;

สีโหว อนุปาทาโน, ปหีนภยเภรโวฯ

‘‘ภิกฺขโว ติสตา อิเม, ติฏฺฐนฺติ ปญฺชลีกตา;

ปาเท วีร ปสาเรหิ, นาคา วนฺทนฺตุ สตฺถุโน’’ติฯ

เสลสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ทุติยํฯ

3. อสฺสลายนสุตฺตํ

[401] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน นานาเวรชฺชกานํ พฺราหฺมณานํ ปญฺจมตฺตานิ พฺราหฺมณสตานิ สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อถ โข เตสํ พฺราหฺมณานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข สมโณ โคตโม จาตุวณฺณิํ สุทฺธิํ ปญฺญเปติฯ โก นุ โข ปโหติ สมเณน โคตเมน สทฺธิํ อสฺมิํ วจเน ปฏิมนฺเตตุ’’นฺติ? เตน โข ปน สมเยน อสฺสลายโน นาม มาณโว สาวตฺถิยํ ปฏิวสติ ทหโร, วุตฺตสิโร, โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก ชาติยา, ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ, ปทโก, เวยฺยากรโณ, โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโยฯ อถ โข เตสํ พฺราหฺมณานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อสฺสลายโน มาณโว สาวตฺถิยํ ปฏิวสติ ทหโร, วุตฺตสิโร, โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก ชาติยา, ติณฺณํ เวทานํ ปารคู…เป.… อนวโยฯ โส โข ปโหติ สมเณน โคตเมน สทฺธิํ อสฺมิํ วจเน ปฏิมนฺเตตุ’’นฺติฯ