เมนู

5. พฺราหฺมณวคฺโค

1. พฺรหฺมายุสุตฺตํ

[383] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา วิเทเหสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิฯ เตน โข ปน สมเยน พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ มิถิลายํ ปฏิวสติ ชิณฺโณ วุฑฺโฒ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, วีสวสฺสสติโก ชาติยา, ติณฺณํ เวทานํ [เพทานํ (ก.)] ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ, ปทโก, เวยฺยากรโณ, โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโยฯ อสฺโสสิ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ – ‘‘สมโณ ขลุ โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต วิเทเหสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’’ติฯ

[384] เตน โข ปน สมเยน พฺรหฺมายุสฺส พฺราหฺมณสฺส อุตฺตโร นาม มาณโว อนฺเตวาสี โหติ ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ, ปทโก, เวยฺยากรโณ, โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโยฯ อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ อุตฺตรํ มาณวํ อามนฺเตสิ – ‘‘อยํ, ตาต อุตฺตร, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต วิเทเหสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิฯ

ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป.… สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’ติฯ เอหิ ตฺวํ, ตาต อุตฺตร, เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา สมณํ โคตมํ ชานาหิ ยทิ วา ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ตถา สนฺตํเยว สทฺโท อพฺภุคฺคโต, ยทิ วา โน ตถา; ยทิ วา โส ภวํ โคตโม ตาทิโส, ยทิ วา น ตาทิโสฯ ตถา มยํ ตํ ภวนฺตํ โคตมํ เวทิสฺสามา’’ติฯ ‘‘ยถา กถํ ปนาหํ, โภ, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ชานิสฺสามิ ยทิ วา ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ตถา สนฺตํเยว สทฺโท อพฺภุคฺคโต, ยทิ วา โน ตถา; ยทิ วา โส ภวํ โคตโม ตาทิโส, ยทิ วา น ตาทิโส’’ติฯ ‘‘อาคตานิ โข, ตาต อุตฺตร, อมฺหากํ มนฺเตสุ ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวเยว คติโย ภวนฺติ อนญฺญา ฯ สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโตฯ ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวนฺติ, เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ, หตฺถิรตนํ, อสฺสรตนํ, มณิรตนํ, อิตฺถิรตนํ, คหปติรตนํ, ปริณายกรตนเมว สตฺตมํฯ ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนาฯ โส อิมํ ปถวิํ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน [ธมฺเมน สเมน (ก.)] อภิวิชิย อชฺฌาวสติฯ สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโทฯ อหํ โข ปน, ตาต อุตฺตร, มนฺตานํ ทาตา; ตฺวํ มนฺตานํ ปฏิคฺคเหตา’’ติฯ

[385] ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข อุตฺตโร มาณโว พฺรหฺมายุสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺฐายาสนา พฺรหฺมายุํ พฺราหฺมณํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา วิเทเหสุ เยน ภควา เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุตฺตโร มาณโว ภควโต กาเย ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ สมนฺเนสิฯ อทฺทสา โข อุตฺตโร มาณโว ภควโต กาเย ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ, เยภุยฺเยน ถเปตฺวา ทฺเวฯ ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห, ปหูตชิวฺหตาย จฯ

อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ปสฺสติ โข เม อยํ อุตฺตโร มาณโว ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ , เยภุยฺเยน ถเปตฺวา ทฺเวฯ ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห, ปหูตชิวฺหตาย จา’’ติฯ อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ ยถา อทฺทส อุตฺตโร มาณโว ภควโต โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํฯ อถ โข ภควา ชิวฺหํ นินฺนาเมตฺวา อุโภปิ กณฺณโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ [ปริมสิ (สี. ก.)]; อุโภปิ นาสิกโสตานิ [นาสิกาโสตานิ (สี.)] อนุมสิ ปฏิมสิ; เกวลมฺปิ นลาฏมณฺฑลํ ชิวฺหาย ฉาเทสิฯ อถ โข อุตฺตรสฺส มาณวสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สมนฺนาคโต โข สมโณ โคตโม ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขเณหิฯ ยํนูนาหํ สมณํ โคตมํ อนุพนฺเธยฺยํ, อิริยาปถมสฺส ปสฺเสยฺย’’นฺติฯ อถ โข อุตฺตโร มาณโว สตฺตมาสานิ ภควนฺตํ อนุพนฺธิ ฉายาว อนปายินี [อนุปายินี (สฺยา. กํ. ก.)]

[386] อถ โข อุตฺตโร มาณโว สตฺตนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน วิเทเหสุ เยน มิถิลา เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน มิถิลา เยน พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา พฺรหฺมายุํ พฺราหฺมณํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อุตฺตรํ มาณวํ พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ, ตาต อุตฺตร, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ตถา สนฺตํเยว สทฺโท อพฺภุคฺคโต , โน อญฺญถา? กจฺจิ ปน โส ภวํ โคตโม ตาทิโส, โน อญฺญาทิโส’’ติ? ‘‘ตถา สนฺตํเยว, โภ, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ สทฺโท อพฺภุคฺคโต, โน อญฺญถา; ตาทิโสว [ตาทิโสว โภ (สี. ปี.), ตาทิโส จ โข (สฺยา. กํ. ก.)] โส ภวํ โคตโม, โน อญฺญาทิโสฯ สมนฺนาคโต จ [สมนฺนาคโต จ โภ (สพฺพตฺถ)] โส ภวํ โคตโม ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขเณหิฯ

‘‘สุปฺปติฏฺฐิตปาโท โข ปน ภวํ โคตโม; อิทมฺปิ ตสฺส โภโต โคตมสฺส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติฯ

‘‘เหฏฺฐา โข ปน ตสฺส โภโต โคตมสฺส ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ สหสฺสารานิ สเนมิกานิ สนาภิกานิ สพฺพาการปริปูรานิ…

‘‘อายตปณฺหิ โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘ทีฆงฺคุลิ โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘มุทุตลุนหตฺถปาโท โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘ชาลหตฺถปาโท โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘อุสฺสงฺขปาโท โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘เอณิชงฺโฆ โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘ฐิตโก โข ปน โส ภวํ โคตโม อโนนมนฺโต อุโภหิ ปาณิตเลหิ ชณฺณุกานิ ปริมสติ ปริมชฺชติ…

‘‘โกโสหิตวตฺถคุยฺโห โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘สุวณฺณวณฺโณ โข ปน โส ภวํ โคตโม กญฺจนสนฺนิภตฺตโจ…

‘‘สุขุมจฺฉวิ โข ปน โส ภวํ โคตโมฯ สุขุมตฺตา ฉวิยา รโชชลฺลํ กาเย น อุปลิมฺปติ…

‘‘เอเกกโลโม โข ปน โส ภวํ โคตโม; เอเกกานิ โลมานิ โลมกูเปสุ ชาตานิ…

‘‘อุทฺธคฺคโลโม โข ปน โส ภวํ โคตโม; อุทฺธคฺคานิ โลมานิ ชาตานิ นีลานิ อญฺชนวณฺณานิ กุณฺฑลาวฏฺฏานิ ทกฺขิณาวฏฺฏกชาตานิ…

‘‘พฺรหฺมุชุคตฺโต โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘สตฺตุสฺสโท โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘สีหปุพฺพทฺธกาโย โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘จิตนฺตรํโส โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘นิคฺโรธปริมณฺฑโล โข ปน โส ภวํ โคตโม; ยาวตกฺวสฺส กาโย ตาวตกฺวสฺส พฺยาโม, ยาวตกฺวสฺส พฺยาโม ตาวตกฺวสฺส กาโย…

‘‘สมวฏฺฏกฺขนฺโธ โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘รสคฺคสคฺคี โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘สีหหนุ โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘จตฺตาลีสทนฺโต โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘สมทนฺโต โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘อวิรฬทนฺโต โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘สุสุกฺกทาโฐ โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘ปหูตชิวฺโห โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘พฺรหฺมสฺสโร โข ปน โส ภวํ โคตโม กรวิกภาณี…

‘‘อภินีลเนตฺโต โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘โคปขุโม โข ปน โส ภวํ โคตโม…

‘‘อุณฺณา โข ปนสฺส โภโต โคตมสฺส ภมุกนฺตเร ชาตา โอทาตา มุทุตูลสนฺนิภา…

‘‘อุณฺหีสสีโส โข ปน โส ภวํ โคตโม; อิทมฺปิ ตสฺส โภโต โคตมสฺส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติฯ

‘‘อิเมหิ โข, โภ, โส ภวํ โคตโม ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโตฯ

[387] ‘‘คจฺฉนฺโต โข ปน โส ภวํ โคตโม ทกฺขิเณเนว ปาเทน ปฐมํ ปกฺกมติฯ โส นาติทูเร ปาทํ อุทฺธรติ, นาจฺจาสนฺเน ปาทํ นิกฺขิปติ; โส นาติสีฆํ คจฺฉติ, นาติสณิกํ คจฺฉติ; น จ อทฺทุเวน อทฺทุวํ สงฺฆฏฺเฏนฺโต คจฺฉติ, น จ โคปฺผเกน โคปฺผกํ สงฺฆฏฺเฏนฺโต คจฺฉติฯ โส คจฺฉนฺโต น สตฺถิํ อุนฺนาเมติ, น สตฺถิํ โอนาเมติ; น สตฺถิํ สนฺนาเมติ, น สตฺถิํ วินาเมติฯ คจฺฉโต โข ปน ตสฺส โภโต โคตมสฺส อธรกาโยว [อฑฺฒกาโยว (ก.), อารทฺธกาโยว (สฺยา. กํ.)] อิญฺชติ, น จ กายพเลน คจฺฉติฯ อปโลเกนฺโต โข ปน โส ภวํ โคตโม สพฺพกาเยเนว อปโลเกติ; โส น อุทฺธํ อุลฺโลเกติ, น อโธ โอโลเกติ; น จ วิเปกฺขมาโน คจฺฉติ, ยุคมตฺตญฺจ เปกฺขติ; ตโต จสฺส อุตฺตริ อนาวฏํ ญาณทสฺสนํ ภวติฯ

โส อนฺตรฆรํ ปวิสนฺโต น กายํ อุนฺนาเมติ , น กายํ โอนาเมติ; น กายํ สนฺนาเมติ, น กายํ วินาเมติฯ โส นาติทูเร นาจฺจาสนฺเน อาสนสฺส ปริวตฺตติ, น จ ปาณินา อาลมฺพิตฺวา อาสเน นิสีทติ, น จ อาสนสฺมิํ กายํ ปกฺขิปติฯ โส อนฺตรฆเร นิสินฺโน สมาโน น หตฺถกุกฺกุจฺจํ อาปชฺชติ, น ปาทกุกฺกุจฺจํ อาปชฺชติ; น อทฺทุเวน อทฺทุวํ อาโรเปตฺวา นิสีทติ; น จ โคปฺผเกน โคปฺผกํ อาโรเปตฺวา นิสีทติ; น จ ปาณินา หนุกํ อุปทหิตฺวา [อุปาทิยิตฺวา (สี. ปี.)] นิสีทติฯ โส อนฺตรฆเร นิสินฺโน สมาโน น ฉมฺภติ น กมฺปติ น เวธติ น ปริตสฺสติฯ โส อฉมฺภี อกมฺปี อเวธี อปริตสฺสี วิคตโลมหํโสฯ วิเวกวตฺโต จ โส ภวํ โคตโม อนฺตรฆเร นิสินฺโน โหติฯ โส ปตฺโตทกํ ปฏิคฺคณฺหนฺโต น ปตฺตํ อุนฺนาเมติ, น ปตฺตํ โอนาเมติ; น ปตฺตํ สนฺนาเมติ, น ปตฺตํ วินาเมติฯ โส ปตฺโตทกํ ปฏิคฺคณฺหาติ นาติโถกํ นาติพหุํฯ โส น ขุลุขุลุการกํ [พุลุพุลุการกํ (สี.)] ปตฺตํ โธวติ, น สมฺปริวตฺตกํ ปตฺตํ โธวติ, น ปตฺตํ ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา หตฺเถ โธวติ; หตฺเถสุ โธเตสุ ปตฺโต โธโต โหติ, ปตฺเต โธเต หตฺถา โธตา โหนฺติฯ โส ปตฺโตทกํ ฉฑฺเฑติ นาติทูเร นาจฺจาสนฺเน, น จ วิจฺฉฑฺฑยมาโนฯ โส โอทนํ ปฏิคฺคณฺหนฺโต น ปตฺตํ อุนฺนาเมติ, น ปตฺตํ โอนาเมติ; น ปตฺตํ สนฺนาเมติ, น ปตฺตํ วินาเมติฯ โส โอทนํ ปฏิคฺคณฺหาติ นาติโถกํ นาติพหุํฯ พฺยญฺชนํ โข ปน ภวํ โคตโม พฺยญฺชนมตฺตาย อาหาเรติ, น จ พฺยญฺชเนน อาโลปํ อตินาเมติฯ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โข ภวํ โคตโม มุเข อาโลปํ สมฺปริวตฺเตตฺวา อชฺโฌหรติ; น จสฺส กาจิ โอทนมิญฺชา อสมฺภินฺนา กายํ ปวิสติ, น จสฺส กาจิ โอทนมิญฺชา มุเข อวสิฏฺฐา โหติ; อถาปรํ อาโลปํ อุปนาเมติฯ รสปฏิสํเวที โข ปน โส ภวํ โคตโม อาหารํ อาหาเรติ, โน จ รสราคปฏิสํเวทีฯ

‘‘อฏฺฐงฺคสมนฺนาคตํ [อฏฺฐงฺคสมนฺนาคโต (ก.)] โข ปน โส ภวํ โคตโม อาหารํ อาหาเรติ – เนว ทวาย, น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ฐิติยา ยาปนาย, วิหิํสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย – ‘อิติ ปุราณญฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ นวญฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’ติ ฯ โส ภุตฺตาวี ปตฺโตทกํ ปฏิคฺคณฺหนฺโต น ปตฺตํ อุนฺนาเมติ, น ปตฺตํ โอนาเมติ; น ปตฺตํ สนฺนาเมติ, น ปตฺตํ วินาเมติฯ โส ปตฺโตทกํ ปฏิคฺคณฺหาติ นาติโถกํ นาติพหุํฯ โส น ขุลุขุลุการกํ ปตฺตํ โธวติ, น สมฺปริวตฺตกํ ปตฺตํ โธวติ, น ปตฺตํ ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา หตฺเถ โธวติ; หตฺเถสุ โธเตสุ ปตฺโต โธโต โหติ, ปตฺเต โธเต หตฺถา โธตา โหนฺติฯ โส ปตฺโตทกํ ฉฑฺเฑติ นาติทูเร นาจฺจาสนฺเน, น จ วิจฺฉฑฺฑยมาโนฯ โส ภุตฺตาวี น ปตฺตํ ภูมิยํ นิกฺขิปติ นาติทูเร นาจฺจาสนฺเน, น จ อนตฺถิโก ปตฺเตน โหติ, น จ อติเวลานุรกฺขี ปตฺตสฺมิํฯ โส ภุตฺตาวี มุหุตฺตํ ตุณฺหี นิสีทติ, น จ อนุโมทนสฺส กาลมตินาเมติฯ โส ภุตฺตาวี อนุโมทติ, น ตํ ภตฺตํ ครหติ, น อญฺญํ ภตฺตํ ปฏิกงฺขติ; อญฺญทตฺถุ ธมฺมิยา กถาย ตํ ปริสํ สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติฯ โส ตํ ปริสํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมติฯ โส นาติสีฆํ คจฺฉติ, นาติสณิกํ คจฺฉติ, น จ มุจฺจิตุกาโม คจฺฉติ; น จ ตสฺส โภโต โคตมสฺส กาเย จีวรํ อจฺจุกฺกฏฺฐํ โหติ น จ อจฺโจกฺกฏฺฐํ, น จ กายสฺมิํ อลฺลีนํ น จ กายสฺมา อปกฏฺฐํ; น จ ตสฺส โภโต โคตมสฺส กายมฺหา วาโต จีวรํ อปวหติ; น จ ตสฺส โภโต โคตมสฺส กาเย รโชชลฺลํ อุปลิมฺปติ ฯ โส อารามคโต นิสีทติ ปญฺญตฺเต อาสเนฯ นิสชฺช ปาเท ปกฺขาเลติ; น จ โส ภวํ โคตโม ปาทมณฺฑนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ โส ปาเท ปกฺขาเลตฺวา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สติํ อุปฏฺฐเปตฺวาฯ โส เนว อตฺตพฺยาพาธาย เจเตติ, น ปรพฺยาพาธาย เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธาย เจเตติ; อตฺตหิตปรหิตอุภยหิตสพฺพโลกหิตเมว โส ภวํ โคตโม จินฺเตนฺโต นิสินฺโน โหติฯ โส อารามคโต ปริสติ ธมฺมํ เทเสติ, น ตํ ปริสํ อุสฺสาเทติ, น ตํ ปริสํ อปสาเทติ; อญฺญทตฺถุ ธมฺมิยา กถาย ตํ ปริสํ สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติฯ

‘‘อฏฺฐงฺคสมนฺนาคโต โข ปนสฺส โภโต โคตมสฺส มุขโต โฆโส นิจฺฉรติ – วิสฺสฏฺโฐ จ, วิญฺเญยฺโย จ, มญฺชุ จ, สวนีโย จ, พินฺทุ จ, อวิสารี จ, คมฺภีโร จ, นินฺนาที จฯ

ยถาปริสํ โข ปน โส ภวํ โคตโม สเรน วิญฺญาเปติ, น จสฺส พหิทฺธา ปริสาย โฆโส นิจฺฉรติฯ เต เตน โภตา โคตเมน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมนฺติ อวโลกยมานาเยว [อปโลกยมานาเยว (สี. ก.)] อวิชหิตตฺตา [อวิชหนฺตาภาเวน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]ฯ อทฺทสาม โข มยํ, โภ, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ คจฺฉนฺตํ, อทฺทสาม ฐิตํ, อทฺทสาม อนฺตรฆรํ ปวิสนฺตํ, อทฺทสาม อนฺตรฆเร นิสินฺนํ ตุณฺหีภูตํ, อทฺทสาม อนฺตรฆเร ภุญฺชนฺตํ, อทฺทสาม ภุตฺตาวิํ นิสินฺนํ ตุณฺหีภูตํ, อทฺทสาม ภุตฺตาวิํ อนุโมทนฺตํ, อทฺทสาม อารามํ คจฺฉนฺตํ, อทฺทสาม อารามคตํ นิสินฺนํ ตุณฺหีภูตํ, อทฺทสาม อารามคตํ ปริสติ ธมฺมํ เทเสนฺตํฯ เอทิโส จ เอทิโส จ โส ภวํ โคตโม, ตโต จ ภิยฺโย’’ติฯ

[388] เอวํ วุตฺเต, พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ อุฏฺฐายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนติ –

‘‘นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ

‘‘นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ

‘‘นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติฯ

‘‘อปฺเปว นาม มยํ กทาจิ กรหจิ เตน โภตา โคตเมน สมาคจฺเฉยฺยาม? อปฺเปว นาม สิยา โกจิเทว กถาสลฺลาโป’’ติ!

[389] อถ โข ภควา วิเทเหสุ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน มิถิลา ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา มิถิลายํ วิหรติ มฆเทวมฺพวเนฯ อสฺโสสุํ โข มิถิเลยฺยกา [เมถิเลยฺยกา (สี. ปี.)] พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต วิเทเหสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ มิถิลํ อนุปฺปตฺโต, มิถิลายํ วิหรติ มฆเทวมฺพวเนฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติฯ

โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ ฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’’ติฯ

อถ โข มิถิเลยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิํสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อปฺเปกจฺเจ ภควโต สนฺติเก นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ

[390] อสฺโสสิ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต มิถิลํ อนุปฺปตฺโต, มิถิลายํ วิหรติ มฆเทวมฺพวเน’’ติฯ อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ สมฺพหุเลหิ สาวเกหิ สทฺธิํ เยน มฆเทวมฺพวนํ เตนุปสงฺกมิฯ อถ โข พฺรหฺมายุโน พฺราหฺมณสฺส อวิทูเร อมฺพวนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘น โข เมตํ ปติรูปํ โยหํ ปุพฺเพ อปฺปฏิสํวิทิโต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺย’’นฺติฯ อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ อญฺญตรํ มาณวกํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, มาณวก, เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน สมณํ โคตมํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺฐานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉ – ‘พฺรหฺมายุ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ ภวนฺตํ โคตมํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺฐานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉตี’ติฯ เอวญฺจ วเทหิ – ‘พฺรหฺมายุ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ ชิณฺโณ วุฑฺโฒ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, วีสวสฺสสติโก ชาติยา, ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ, ปทโก, เวยฺยากรโณ, โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโยฯ ยาวตา, โภ, พฺราหฺมณคหปติกา มิถิลายํ ปฏิวสนฺติ, พฺรหฺมายุ เตสํ พฺราหฺมโณ อคฺคมกฺขายติ – ยทิทํ โภเคหิ; พฺรหฺมายุ เตสํ พฺราหฺมโณ อคฺคมกฺขายติ – ยทิทํ มนฺเตหิ; พฺรหฺมายุ เตสํ พฺราหฺมโณ อคฺคมกฺขายติ – ยทิทํ อายุนา เจว ยสสา จฯ โส โภโต โคตมสฺส ทสฺสนกาโม’’’ติฯ

‘‘เอวํ , โภ’’ติ โข โส มาณวโก พฺรหฺมายุสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข โส มาณวโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘พฺรหฺมายุ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ ภวนฺตํ โคตมํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺฐานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ; เอวญฺจ วเทติ – ‘พฺรหฺมายุ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ ชิณฺโณ วุฑฺโฒ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, วีสวสฺสสติโก ชาติยา, ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ, ปทโก, เวยฺยากรโณ, โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโยฯ ยาวตา, โภ, พฺราหฺมณคหปติกา มิถิลายํ ปฏิวสนฺติ, พฺรหฺมายุ เตสํ พฺราหฺมโณ อคฺคมกฺขายติ – ยทิทํ โภเคหิ; พฺรหฺมายุ เตสํ พฺราหฺมโณ อคฺคมกฺขายติ – ยทิทํ มนฺเตหิ; พฺรหฺมายุ เตสํ พฺราหฺมโณ อคฺคมกฺขายติ – ยทิทํ อายุนา เจว ยสสา จฯ โส โภโต โคตมสฺส ทสฺสนกาโม’’’ติฯ ‘‘ยสฺสทานิ, มาณว, พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ กาลํ มญฺญตี’’ติฯ อถ โข โส มาณวโก เยน พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา พฺรหฺมายุํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘กตาวกาโส โขมฺหิ ภวตา สมเณน โคตเมนฯ ยสฺสทานิ ภวํ กาลํ มญฺญตี’’ติฯ

[391] อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสา โข สา ปริสา พฺรหฺมายุํ พฺราหฺมณํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน โอรมิย [โอรมตฺถ (สฺยา. กํ. ปี.), โอรมถ, โอรมติ (ก.), อถ นํ (สี.), โอรมิยาติ ปน ตฺวาปจฺจยนฺตตถสํวณฺณนานุรูปํ วิโสธิตปทํ] โอกาสมกาสิ ยถา ตํ ญาตสฺส ยสสฺสิโนฯ อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ตํ ปริสํ เอตทโวจ – ‘‘อลํ, โภ! นิสีทถ ตุมฺเห สเก อาสเนฯ อิธาหํ สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติเก นิสีทิสฺสามี’’ติฯ

อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ

เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ภควโต กาเย ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ สมนฺเนสิฯ อทฺทสา โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ภควโต กาเย ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ, เยภุยฺเยน ฐเปตฺวา ทฺเวฯ ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห, ปหูตชิวฺหตาย จฯ อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

‘‘เย เม ทฺวตฺติํสาติ สุตา, มหาปุริสลกฺขณา;

ทุเว เตสํ น ปสฺสามิ, โภโต กายสฺมิํ โคตมฯ

‘‘กจฺจิ โกโสหิตํ โภโต, วตฺถคุยฺหํ นรุตฺตม;

นารีสมานสวฺหยา, กจฺจิ ชิวฺหา น ทสฺสกา [นารีสหนาม สวฺหยา, กจฺจิ ชิวฺหา นรสฺสิกา; (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]

‘‘กจฺจิ ปหูตชิวฺโหสิ, ยถา ตํ ชานิยามเส;

นินฺนามเยตํ ปหูตํ, กงฺขํ วินย โน อิเสฯ

‘‘ทิฏฺฐธมฺมหิตตฺถาย, สมฺปรายสุขาย จ;

กตาวกาสา ปุจฺฉาม, ยํ กิญฺจิ อภิปตฺถิต’’นฺติฯ

[392] อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ปสฺสติ โข เม อยํ พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ, เยภุยฺเยน ฐเปตฺวา ทฺเวฯ ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ – โกโสหิเต จ วตฺถคุยฺเห, ปหูตชิวฺหตาย จา’’ติ ฯ อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ ยถา อทฺทส พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ภควโต โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํฯ อถ โข ภควา ชิวฺหํ นินฺนาเมตฺวา อุโภปิ กณฺณโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ; อุโภปิ นาสิกโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ; เกวลมฺปิ นลาฏมณฺฑลํ ชิวฺหาย ฉาเทสิฯ อถ โข ภควา พฺรหฺมายุํ พฺราหฺมณํ คาถาหิ ปจฺจภาสิ –

‘‘เย เต ทฺวตฺติํสาติ สุตา, มหาปุริสลกฺขณา;

สพฺเพ เต มม กายสฺมิํ, มา เต [มา โว (ก.)] กงฺขาหุ พฺราหฺมณฯ

‘‘อภิญฺเญยฺยํ อภิญฺญาตํ, ภาเวตพฺพญฺจ ภาวิตํ;

ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณฯ

‘‘ทิฏฺฐธมฺมหิตตฺถาย , สมฺปรายสุขาย จ;

กตาวกาโส ปุจฺฉสฺสุ, ยํ กิญฺจิ อภิปตฺถิต’’นฺติฯ

[393] อถ โข พฺรหฺมายุสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กตาวกาโส โขมฺหิ สมเณน โคตเมนฯ กิํ นุ โข อหํ สมณํ โคตมํ ปุจฺเฉยฺยํ – ‘ทิฏฺฐธมฺมิกํ วา อตฺถํ สมฺปรายิกํ วา’’’ติฯ อถ โข พฺรหฺมายุสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กุสโล โข อหํ ทิฏฺฐธมฺมิกานํ อตฺถานํฯ อญฺเญปิ มํ ทิฏฺฐธมฺมิกํ อตฺถํ ปุจฺฉนฺติฯ ยํนูนาหํ สมณํ โคตมํ สมฺปรายิกํเยว อตฺถํ ปุจฺเฉยฺย’’นฺติฯ อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

‘‘กถํ โข พฺราหฺมโณ โหติ, กถํ ภวติ เวทคู;

เตวิชฺโช โภ กถํ โหติ, โสตฺถิโย กินฺติ วุจฺจติฯ

‘‘อรหํ โภ กถํ โหติ, กถํ ภวติ เกวลี;

มุนิ จ โภ กถํ โหติ, พุทฺโธ กินฺติ ปวุจฺจตี’’ติฯ

[394] อถ โข ภควา พฺรหฺมายุํ พฺราหฺมณํ คาถาหิ ปจฺจภาสิ –

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ โย เวทิ, สคฺคาปายญฺจ ปสฺสติ;

อโถ ชาติกฺขยํ ปตฺโต, อภิญฺญา โวสิโต มุนิฯ

‘‘จิตฺตํ วิสุทฺธํ ชานาติ, มุตฺตํ ราเคหิ สพฺพโส;

ปหีนชาติมรโณ, พฺรหฺมจริยสฺส เกวลี;

ปารคู สพฺพธมฺมานํ, พุทฺโธ ตาที ปวุจฺจตี’’ติฯ

เอวํ วุตฺเต, พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ อุฏฺฐายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควโต ปาทานิ มุเขน จ ปริจุมฺพติ, ปาณีหิ จ ปริสมฺพาหติ, นามญฺจ สาเวติ – ‘‘พฺรหฺมายุ อหํ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ; พฺรหฺมายุ อหํ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ’’ติฯ อถ โข สา ปริสา อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา อโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! ยตฺร หิ นามายํ พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ญาโต ยสสฺสี เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กริสฺสตี’’ติฯ อถ โข ภควา พฺรหฺมายุํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘อลํ, พฺราหฺมณ, อุฏฺฐห นิสีท ตฺวํ สเก อาสเน ยโต เต มยิ จิตฺตํ ปสนฺน’’นฺติฯ อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ อุฏฺฐหิตฺวา สเก อาสเน นิสีทิฯ

[395] อถ โข ภควา พฺรหฺมายุสฺส พฺราหฺมณสฺส อนุปุพฺพิํ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ, สีลกถํ, สคฺคกถํ; กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิฯ ยทา ภควา อญฺญาสิ พฺรหฺมายุํ พฺราหฺมณํ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํฯ เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว พฺรหฺมายุสฺส พฺราหฺมณสฺส ตสฺมิํเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติฯ อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ทิฏฺฐธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ – เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตฯ เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตํฯ อธิวาเสตุ จ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ ฯ อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฏฺฐิตํ ภตฺต’’นฺติฯ

อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน พฺรหฺมายุสฺส พฺราหฺมณสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนฯ อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิฯ อถ โข ภควา ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน วิเทเหสุ จาริกํ ปกฺกามิฯ อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต กาลมกาสิฯ

อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘พฺรหฺมายุ, ภนฺเต, พฺราหฺมโณ กาลงฺกโตฯ ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’’ติ? ‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ ปจฺจปาทิ ธมฺมสฺสานุธมฺมํ, น จ มํ ธมฺมาธิกรณํ วิเหเสสิฯ พฺรหฺมายุ, ภิกฺขเว, พฺราหฺมโณ ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี, อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา’’ติฯ

อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ

พฺรหฺมายุสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ปฐมํฯ

2. เสลสุตฺตํ

[396] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน อาปณํ นาม องฺคุตฺตราปานํ นิคโม ตทวสริฯ อสฺโสสิ โข เกณิโย ชฏิโล – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ อาปณํ อนุปฺปตฺโตฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’’ติฯ

อถ โข เกณิโย ชฏิโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ