เมนู

4. ราชวคฺโค

1. ฆฏิการสุตฺตํ

[282] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํฯ อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม อญฺญตรสฺมิํ ปเทเส สิตํ ปาตฺวากาสิฯ อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย ภควโต สิตสฺส ปาตุกมฺมาย? น อการเณน [น อการเณ (สี.)] ตถาคตา สิตํ ปาตุกโรนฺตี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เอกํสํ จีวรํ [อุตฺตราสงฺค (สฺยา. กํ.)] กตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย ภควโต สิตสฺส ปาตุกมฺมาย? น อการเณน ตถาคตา สิตํ ปาตุกโรนฺตี’’ติฯ ‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, อิมสฺมิํ ปเทเส เวคฬิงฺคํ [เวหลิงฺคํ (สี.), เวภลิคํ (สฺยา. กํ.), เวภลิงฺคํ (ปี.)] นาม คามนิคโม อโหสิ อิทฺโธ เจว ผีโต จ พหุชโน อากิณฺณมนุสฺโสฯ เวคฬิงฺคํ โข, อานนฺท, คามนิคมํ กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุปนิสฺสาย วิหาสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อาราโม อโหสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ นิสินฺนโก ภิกฺขุสงฺฆํ โอวทตี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อานนฺโท จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏิํ ปญฺญเปตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, ภควา นิสีทตุ เอตฺถฯ อยํ ภูมิปเทโส ทฺวีหิ อรหนฺเตหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ ปริภุตฺโต ภวิสฺสตี’’ติฯ นิสีทิ ภควา ปญฺญตฺเต อาสเนฯ นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ –

‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, อิมสฺมิํ ปเทเส เวคฬิงฺคํ นาม คามนิคโม อโหสิ อิทฺโธ เจว ผีโต จ พหุชโน อากิณฺณมนุสฺโสฯ เวคฬิงฺคํ โข, อานนฺท, คามนิคมํ กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุปนิสฺสาย วิหาสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อาราโม อโหสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ นิสินฺนโก ภิกฺขุสงฺฆํ โอวทติฯ

[283] ‘‘เวคฬิงฺเค โข, อานนฺท, คามนิคเม ฆฏิกาโร [ฆฏีกาโร (สี. ปี.)] นาม กุมฺภกาโร กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อุปฏฺฐาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺฐาโกฯ ฆฏิการสฺส โข, อานนฺท, กุมฺภการสฺส โชติปาโล นาม มาณโว สหาโย อโหสิ ปิยสหาโยฯ อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ อามนฺเตสิ – ‘อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ เอวํ วุตฺเต, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม ฆฏิการฯ กิํ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิฏฺเฐนา’ติ? ทุติยมฺปิ โข, อานนฺท…เป.… ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ เอตทโวจ – ‘อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม ฆฏิการฯ กิํ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิฏฺเฐนา’ติ? ‘เตน หิ, สมฺม โชติปาล, โสตฺติสินานิํ [โสตฺติํ สินานิํ (สี. ปี.), โสตฺติสินานํ (สฺยา. กํ. ก.)] อาทาย [อาหร (ก.)] นทิํ คมิสฺสาม สินายิตุ’นฺติฯ ‘เอวํ สมฺมา’ติ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส ปจฺจสฺโสสิฯ อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร จ กุมฺภกาโร โชติปาโล จ มาณโว โสตฺติสินานิํ อาทาย นทิํ อคมํสุ สินายิตุํ’ฯ

[284] ‘‘อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ อามนฺเตสิ – ‘อยํ, สมฺม โชติปาล, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อวิทูเร อาราโมฯ อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ เอวํ วุตฺเต, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม ฆฏิการฯ กิํ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิฏฺเฐนา’ติ? ทุติยมฺปิ โข, อานนฺท…เป.… ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ เอตทโวจ – ‘อยํ, สมฺม โชติปาล, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อวิทูเร อาราโมฯ

อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม ฆฏิการฯ กิํ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิฏฺเฐนา’ติ? อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ โอวฏฺฏิกายํ ปรามสิตฺวา เอตทโวจ – ‘อยํ, สมฺม โชติปาล, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อวิทูเร อาราโมฯ อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ อถ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว โอวฏฺฏิกํ วินิวฏฺเฏตฺวา [วินิเวเฐตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘อลํ, สมฺม ฆฏิการฯ กิํ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิฏฺเฐนา’ติ? อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร โชติปาลํ มาณวํ สีสํนฺหาตํ [สสีสํ นหาตํ (สี.), สีสนฺหาตํ (สฺยา. กํ.)] เกเสสุ ปรามสิตฺวา เอตทโวจ – ‘อยํ, สมฺม โชติปาล, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อวิทูเร อาราโมฯ อายาม, สมฺม โชติปาล, กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสาม ฯ สาธุสมฺมตญฺหิ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ อถ โข, อานนฺท, โชติปาลสฺส มาณวสฺส เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! ยตฺร หิ นามายํ ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร อิตฺตรชจฺโจ สมาโน อมฺหากํ สีสํนฺหาตานํ เกเสสุ ปรามสิตพฺพํ มญฺญิสฺสติ; น วติทํ กิร โอรกํ มญฺเญ ภวิสฺสตี’ติ; ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘ยาวตาโทหิปิ [ยาเวตโทหิปิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], สมฺม ฆฏิการา’ติ? ‘ยาวตาโทหิปิ, สมฺม โชติปาลฯ ตถา หิ ปน เม สาธุสมฺมตํ ตสฺส ภควโต ทสฺสนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’ติฯ ‘เตน หิ, สมฺม ฆฏิการ, มุญฺจ; คมิสฺสามา’ติฯ

[285] ‘‘อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร จ กุมฺภกาโร โชติปาโล จ มาณโว เยน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ

โชติปาโล ปน มาณโว กสฺสเปน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘อยํ เม, ภนฺเต, โชติปาโล มาณโว สหาโย ปิยสหาโยฯ อิมสฺส ภควา ธมฺมํ เทเสตู’ติฯ อถ โข, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ฆฏิการญฺจ กุมฺภการํ โชติปาลญฺจ มาณวํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร จ กุมฺภกาโร โชติปาโล จ มาณโว กสฺสเปน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมิํสุฯ

[286] ‘‘อถ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว ฆฏิการํ กุมฺภการํ เอตทโวจ – ‘อิมํ นุ ตฺวํ, สมฺม ฆฏิการ, ธมฺมํ สุณนฺโต อถ จ ปน อคารสฺมา อนคาริยํ น ปพฺพชิสฺสสี’ติ? ‘นนุ มํ, สมฺม โชติปาล, ชานาสิ, อนฺเธ ชิณฺเณ มาตาปิตโร โปเสมี’ติ? ‘เตน หิ, สมฺม ฆฏิการ, อหํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามี’ติฯ อถ โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร จ กุมฺภกาโร โชติปาโล จ มาณโว เยน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนุปสงฺกมิํสุ ; อุปสงฺกมิตฺวา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, อานนฺท, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘อยํ เม, ภนฺเต, โชติปาโล มาณโว สหาโย ปิยสหาโยฯ อิมํ ภควา ปพฺพาเชตู’ติฯ อลตฺถ โข, อานนฺท, โชติปาโล มาณโว กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํฯ

[287] ‘‘อถ โข, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อจิรูปสมฺปนฺเน โชติปาเล มาณเว อฑฺฒมาสุปสมฺปนฺเน เวคฬิงฺเค ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน พาราณสี เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน พาราณสี ตทวสริฯ

ตตฺร สุทํ, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเย ฯ อสฺโสสิ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา – ‘กสฺสโป กิร ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พาราณสิํ อนุปฺปตฺโต พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเย’ติฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา ภทฺรานิ ภทฺรานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺรํ [ภทฺรํ ภทฺรํ (ก.)] ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเรหิ ภทฺเรหิ ยาเนหิ พาราณสิยา นิยฺยาสิ มหจฺจราชานุภาเวน [มหจฺจา ราชานุภาเวน (สี.), มหตา ราชานุภาเวน (ปี.)] กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสฺสนายฯ ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว เยน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข, อานนฺท, กิกิํ กาสิราชานํ กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสเปน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนา’ติฯ อธิวาเสสิ โข, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตุณฺหีภาเวนฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปสฺส ภควโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ปณฺฑุปุฏกสฺส [ปณฺฑุมุฏีกสฺส (สี. ปี.), ปณฺฑุมุทิกสฺส (สฺยา. กํ.)] สาลิโน วิคตกาฬกํ อเนกสูปํ อเนกพฺยญฺชนํ, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺฐิตํ ภตฺต’นฺติฯ

[288] ‘‘อถ โข, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน กิกิสฺส กาสิรญฺโญ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิฯ

อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ อญฺญตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา พาราณสิยํ วสฺสาวาสํ; เอวรูปํ สงฺฆสฺส อุปฏฺฐานํ ภวิสฺสตี’ติฯ ‘อลํ, มหาราชฯ อธิวุตฺโถ เม วสฺสาวาโส’ติฯ ทุติยมฺปิ โข, อานนฺท… ตติยมฺปิ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา พาราณสิยํ วสฺสาวาสํ; เอวรูปํ สงฺฆสฺส อุปฏฺฐานํ ภวิสฺสตี’ติฯ ‘อลํ, มหาราชฯ อธิวุตฺโถ เม วสฺสาวาโส’ติฯ อถ โข, อานนฺท, กิกิสฺส กาสิรญฺโญ ‘น เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อธิวาเสติ พาราณสิยํ วสฺสาวาส’นฺติ อหุเทว อญฺญถตฺตํ , อหุ โทมนสฺสํฯ อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘อตฺถิ นุ โข, ภนฺเต, อญฺโญ โกจิ มยา อุปฏฺฐากตโร’ติ?

‘‘‘อตฺถิ, มหาราช, เวคฬิงฺคํ นาม คามนิคโมฯ ตตฺถ ฆฏิกาโร นาม กุมฺภกาโร; โส เม อุปฏฺฐาโก อคฺคุปฏฺฐาโกฯ ตุยฺหํ โข ปน, มหาราช, น เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อธิวาเสติ พาราณสิยํ วสฺสาวาสนฺติ อตฺเถว [อตฺถิ (สี. ปี.)] อญฺญถตฺตํ, อตฺถิ โทมนสฺสํฯ ตยิทํ ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส [ฆฏิกาเร กุมฺภกาเร (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นตฺถิ จ น จ ภวิสฺสติฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร พุทฺธํ สรณํ คโต, ธมฺมํ สรณํ คโต, สงฺฆํ สรณํ คโตฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต, มุสาวาทา ปฏิวิรโต, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา ปฏิวิรโตฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต, อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโตฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร ทุกฺเข นิกฺกงฺโข, ทุกฺขสมุทเย นิกฺกงฺโข, ทุกฺขนิโรเธ นิกฺกงฺโข, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย นิกฺกงฺโขฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร เอกภตฺติโก พฺรหฺมจารี สีลวา กลฺยาณธมฺโมฯ

ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร นิกฺขิตฺตมณิสุวณฺโณ อเปตชาตรูปรชโต ฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร ปนฺนมุสโล น สหตฺถา ปถวิํ ขณติ [กุมฺภกาโร น มุสเลน น สหตฺถา ปฐวิํ ขณติ (สฺยา. กํ. ปี.), กุมฺภกาโร น มุสเลน สหตฺถา ปถวิญฺจ ขณติ (ก.)]ฯ ยํ โหติ กูลปลุคฺคํ วา มูสิกุกฺกโร [มูสิกุกฺกุโร (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา ตํ กาเชน อาหริตฺวา ภาชนํ กริตฺวา เอวมาห – ‘‘เอตฺถ โย อิจฺฉติ ตณฺฑุลปฏิภสฺตานิ [ตณฺฑุล ปภิวตฺตานิ (สี. ปี.)] วา มุคฺคปฏิภสฺตานิ วา กฬายปฏิภสฺตานิ วา นิกฺขิปิตฺวา ยํ อิจฺฉติ ตํ หรตู’’ติฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร อนฺเธ ชิณฺเณ มาตาปิตโร โปเสติฯ ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกาฯ

[289] ‘‘‘เอกมิทาหํ , มหาราช, สมยํ เวคฬิงฺเค นาม คามนิคเม วิหรามิฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิํ; อุปสงฺกมิตฺวา ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เอตทโวจํ – ‘‘หนฺท, โก นุ โข อยํ ภคฺคโว คโต’’ติ? ‘‘นิกฺขนฺโต โข เต, ภนฺเต, อุปฏฺฐาโก อนฺโตกุมฺภิยา โอทนํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชา’’ติฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, กุมฺภิยา โอทนํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมิํ [ปกฺกามิํ (สฺยา. กํ. ปี.)]ฯ อถ โข, มหาราช, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร เยน มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มาตาปิตโร เอตทโวจ – ‘‘โก กุมฺภิยา โอทนํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกนฺโต’’ติ? ‘‘กสฺสโป, ตาต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ กุมฺภิยา โอทนํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกนฺโต’’ติ? อถ โข, มหาราช, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอวํ อภิวิสฺสตฺโถ’’ติฯ อถ โข, มหาราช, ฆฏิการํ กุมฺภการํ อฑฺฒมาสํ ปีติสุขํ น วิชหติ [น วิชหิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], สตฺตาหํ มาตาปิตูนํฯ

[290] ‘‘‘เอกมิทาหํ, มหาราช, สมยํ ตตฺเถว เวคฬิงฺเค นาม คามนิคเม วิหรามิฯ

อถ ขฺวาหํ, มหาราช, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิํ; อุปสงฺกมิตฺวา ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เอตทโวจํ – ‘‘หนฺท, โก นุ โข อยํ ภคฺคโว คโต’’ติ? ‘‘นิกฺขนฺโต โข เต, ภนฺเต, อุปฏฺฐาโก อนฺโต กโฬปิยา กุมฺมาสํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชา’’ติฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, กโฬปิยา กุมฺมาสํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมิํฯ อถ โข, มหาราช, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร เยน มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มาตาปิตโร เอตทโวจ – ‘‘โก กโฬปิยา กุมฺมาสํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกนฺโต’’ติ? ‘‘กสฺสโป, ตาต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ กโฬปิยา กุมฺมาสํ คเหตฺวา ปริโยคา สูปํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกนฺโต’’ติฯ อถ โข, มหาราช, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอวํ อภิวิสฺสตฺโถ’’ติฯ อถ โข, มหาราช, ฆฏิการํ กุมฺภการํ อฑฺฒมาสํ ปีติสุขํ น วิชหติ, สตฺตาหํ มาตาปิตูนํฯ

[291] ‘‘‘เอกมิทาหํ, มหาราช, สมยํ ตตฺเถว เวคฬิงฺเค นาม คามนิคเม วิหรามิฯ เตน โข ปน สมเยน กุฏิ [คนฺธกุฏิ (สี.)] โอวสฺสติฯ อถ ขฺวาหํ, มหาราช, ภิกฺขู อามนฺเตสิํ – ‘‘คจฺฉถ, ภิกฺขเว, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส นิเวสเน ติณํ ชานาถา’’ติฯ เอวํ วุตฺเต, มหาราช, เต ภิกฺขู มํ เอตทโวจุํ – ‘‘นตฺถิ โข, ภนฺเต, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส นิเวสเน ติณํ, อตฺถิ จ ขฺวาสฺส อาเวสเน [อาเวสนํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ติณจฺฉทน’’ [นวจฺฉทนํ (สี.)] นฺติฯ ‘‘คจฺฉถ, ภิกฺขเว, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ อุตฺติณํ กโรถา’’ติฯ อถ โข เต, มหาราช, ภิกฺขู ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส อาเวสนํ อุตฺติณมกํสุฯ อถ โข, มหาราช, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส มาตาปิตโร เต ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘เก อาเวสนํ อุตฺติณํ กโรนฺตี’’ติ? ‘‘ภิกฺขู, ภคินิ, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กุฏิ โอวสฺสตี’’ติฯ ‘‘หรถ, ภนฺเต, หรถ, ภทฺรมุขา’’ติฯ

อถ โข, มหาราช, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร เยน มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มาตาปิตโร เอตทโวจ – ‘‘เก อาเวสนํ อุตฺติณมกํสู’’ติ? ‘‘ภิกฺขู, ตาต, กสฺสปสฺส กิร ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กุฏิ โอวสฺสตี’’ติฯ อถ โข, มหาราช, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอวํ อภิวิสฺสตฺโถ’’ติฯ อถ โข, มหาราช ฆฏิการํ กุมฺภการํ อฑฺฒมาสํ ปีติสุขํ น วิชหติ, สตฺตาหํ มาตาปิตูนํฯ อถ โข, มหาราช, อาเวสนํ สพฺพนฺตํ เตมาสํ อากาสจฺฉทนํ อฏฺฐาสิ, น เทโวติวสฺสิ [น จาติวสฺสิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]ฯ เอวรูโป จ, มหาราช, ฆฏิกาโร กุมฺภกาโร’ติฯ ‘ลาภา, ภนฺเต, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส, สุลทฺธา, ภนฺเต, ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส ยสฺส ภควา เอวํ อภิวิสฺสตฺโถ’’’ติฯ

[292] ‘‘อถ โข, อานนฺท, กิกี กาสิราชา ฆฏิการสฺส กุมฺภการสฺส ปญฺจมตฺตานิ ตณฺฑุลวาหสตานิ ปาเหสิ ปณฺฑุปุฏกสฺส สาลิโน ตทุปิยญฺจ สูเปยฺยํฯ อถ โข เต, อานนฺท, ราชปุริสา ฆฏิการํ กุมฺภการํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจุํ – ‘อิมานิ โข, ภนฺเต, ปญฺจมตฺตานิ ตณฺฑุลวาหสตานิ กิกินา กาสิราเชน ปหิตานิ ปณฺฑุปุฏกสฺส สาลิโน ตทุปิยญฺจ สูเปยฺยํฯ ตานิ, ภนฺเต, ปฏิคฺคณฺหถา’ติ [ปติคฺคณฺหาตูติ (สี. ปี.), ปฏิคฺคณฺหาตูติ (สฺยา. กํ.)]ฯ ‘ราชา โข พหุกิจฺโจ พหุกรณีโยฯ อลํ เม! รญฺโญว โหตู’ติฯ สิยา โข ปน เต, อานนฺท, เอวมสฺส – ‘อญฺโญ นูน เตน สมเยน โชติปาโล มาณโว อโหสี’ติฯ น โข ปเนตํ, อานนฺท, เอวํ ทฏฺฐพฺพํฯ อหํ เตน สมเยน โชติปาโล มาณโว อโหสิ’’นฺติฯ

อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ

ฆฏิการสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ปฐมํฯ

2. รฏฺฐปาลสุตฺตํ

[293] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กุรูสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ เยน ถุลฺลโกฏฺฐิกํ [ถูลโกฏฺฐิกํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นาม กุรูนํ นิคโม ตทวสริฯ อสฺโสสุํ โข ถุลฺลโกฏฺฐิกา [ถูลโกฏฺฐิตกา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต กุรูสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ ถุลฺลโกฏฺฐิกํ อนุปฺปตฺโตฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติฯ อถ โข ถุลฺลโกฏฺฐิกา พฺราหฺมณคหปติกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิํสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อปฺเปกจฺเจ ภควโต สนฺติเก นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข ถุลฺลโกฏฺฐิเก พฺราหฺมณคหปติเก ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ

[294] เตน โข ปน สมเยน รฏฺฐปาโล นาม กุลปุตฺโต ตสฺมิํเยว ถุลฺลโกฏฺฐิเก อคฺคกุลสฺส [อคฺคกุลิกสฺส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปุตฺโต ติสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติฯ อถ โข รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยถา ยถา ขฺวาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ [ยถา ยถา โข ภควา ธมฺมํ เทเสติ (สี.)], นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํฯ ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’’นฺติฯ อถ โข ถุลฺลโกฏฺฐิกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมิํสุฯ