10. เวขนสสุตฺตํ
[278] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข เวขนโส [เวขนสฺโส (สี. ปี.)] ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข เวขนโส ปริพฺพาชโก ภควโต สนฺติเก อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อยํ ปรโม วณฺโณ, อยํ ปรโม วณฺโณ’’ติฯ
‘‘กิํ ปน ตฺวํ, กจฺจาน, เอวํ วเทสิ – ‘อยํ ปรโม วณฺโณ, อยํ ปรโม วณฺโณ’ติ? กตโม, กจฺจาน, โส ปรโม วณฺโณ’’ติ?
‘‘ยสฺมา, โภ โคตม, วณฺณา อญฺโญ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถิ โส ปรโม วณฺโณ’’ติฯ
‘‘กตโม ปน โส, กจฺจาน, วณฺโณ ยสฺมา วณฺณา อญฺโญ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถี’’ติ?
‘‘ยสฺมา, โภ โคตม, วณฺณา อญฺโญ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถิ โส ปรโม วณฺโณ’’ติฯ
‘‘ทีฆาปิ โข เต เอสา, กจฺจาน, ผเรยฺย – ‘ยสฺมา, โภ โคตม, วณฺณา อญฺโญ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถิ โส ปรโม วณฺโณ’ติ วเทสิ, ตญฺจ วณฺณํ น ปญฺญเปสิฯ เสยฺยถาปิ, กจฺจาน, ปุริโส เอวํ วเทยฺย – ‘อหํ ยา อิมสฺมิํ ชนปเท ชนปทกลฺยาณี, ตํ อิจฺฉามิ ตํ กาเมมี’ติฯ ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยํ ตฺวํ ชนปทกลฺยาณิํ อิจฺฉสิ กาเมสิ, ชานาสิ ตํ ชนปทกลฺยาณิํ – ขตฺติยี วา พฺราหฺมณี วา เวสฺสี วา สุทฺที วา’ติ? อิติ ปุฏฺโฐ ‘โน’ติ วเทยฺยฯ ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยํ ตฺวํ ชนปทกลฺยาณิํ อิจฺฉสิ กาเมสิ, ชานาสิ ตํ ชนปทกลฺยาณิํ ‘เอวํนามา เอวํโคตฺตาติ วาติ…เป.… ทีฆา วา รสฺสา วา มชฺฌิมา วา กาฬี วา สามา วา มงฺคุรจฺฉวี วาติ… อมุกสฺมิํ คาเม วา นิคเม วา นคเร วา’ติ? อิติ ปุฏฺโฐ ‘โน’ติ วเทยฺยฯ ตเมนํ เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺโภ ปุริส, ยํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ, ตํ ตฺวํ อิจฺฉสิ กาเมสี’’’ติ? อิติ ปุฏฺโฐ ‘อามา’ติ วเทยฺยฯ
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, กจฺจาน, นนุ เอวํ สนฺเต ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อทฺธา โข, โภ โคตม, เอวํ สนฺเต ตสฺส ปุริสสฺส อปฺปาฏิหีรกตํ ภาสิตํ สมฺปชฺชตี’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข ตฺวํ, กจฺจาน, ‘ยสฺมา, โภ โคตม, วณฺณา อญฺโญ วณฺโณ อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถิ โส ปรโม วณฺโณ’ติ วเทสิ; ตญฺจ วณฺณํ น ปญฺญเปสี’’ติฯ ‘‘เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺฐํโส สุปริกมฺมกโต ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโต ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ, เอวํ วณฺโณ อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’’ติฯ
[279] ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, กจฺจาน, โย วา มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺฐํโส สุปริกมฺมกโต ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺโต ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจติ จ, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย กิมิ ขชฺโชปนโก อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, โภ โคตม, รตฺตนฺธการติมิสาย กิมิ ขชฺโชปนโก, อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติฯ
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, กจฺจาน, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย กิมิ ขชฺโชปนโก, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย เตลปฺปทีโป, อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, โภ โคตม, รตฺตนฺธการติมิสาย เตลปฺปทีโป, อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติฯ
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, กจฺจาน, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย เตลปฺปทีโป, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย มหาอคฺคิกฺขนฺโธ, อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, โภ โคตม, รตฺตนฺธการติมิสาย มหาอคฺคิกฺขนฺโธ, อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติฯ
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, กจฺจาน, โย วา รตฺตนฺธการติมิสาย มหาอคฺคิกฺขนฺโธ, ยา วา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว โอสธิตารกา, อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, โภ โคตม, รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว โอสธิตารกา, อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติฯ
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, กจฺจาน, ยา วา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว โอสธิตารกา, โย วา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท อฑฺฒรตฺตสมยํ จนฺโท, อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, โภ โคตม, ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท อฑฺฒรตฺตสมยํ จนฺโท, อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติฯ ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, กจฺจาน, โย วา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท อฑฺฒรตฺตสมยํ จนฺโท, โย วา วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท มชฺฌนฺหิกสมยํ สูริโย, อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ กตโม วณฺโณ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติ? ‘‘ยฺวายํ, โภ โคตม, วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อภิโท มชฺฌนฺหิกสมยํ สูริโย – อยํ อิเมสํ อุภินฺนํ วณฺณานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติฯ ‘‘อโต โข เต, กจฺจาน, พหู หิ พหุตรา เทวา เย อิเมสํ จนฺทิมสูริยานํ อาภา นานุโภนฺติ, ตฺยาหํ ปชานามิฯ อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ยสฺมา วณฺณา อญฺโญ วณฺโณ อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ นตฺถี’ติฯ อถ จ ปน ตฺวํ, กจฺจาน, ‘ยฺวายํ วณฺโณ กิมินา ขชฺโชปนเกน นิหีนตโร จ ปติกิฏฺฐตโร จ โส ปรโม วณฺโณ’ติ วเทสิ; ตญฺจ วณฺณํ น ปญฺญเปสิ’’ฯ
[280] ‘‘ปญฺจ โข อิเม, กจฺจาน, กามคุณาฯ กตเม ปญฺจ? จกฺขุวิญฺเญยฺยา รูปา อิฏฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, โสตวิญฺเญยฺยา สทฺทา…เป.… ฆานวิญฺเญยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิญฺเญยฺยา รสา… กายวิญฺเญยฺยา โผฏฺฐพฺพา อิฏฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา – อิเม โข, กจฺจาน, ปญฺจ กามคุณาฯ ยํ โข, กจฺจาน, อิเม ปญฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ อิทํ วุจฺจติ กามสุขํฯ อิติ กาเมหิ กามสุขํ, กามสุขา กามคฺคสุขํ ตตฺถ อคฺคมกฺขายตี’’ติฯ
เอวํ วุตฺเต, เวขนโส ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยาว สุภาสิตํ จิทํ โภตา โคตเมน – ‘กาเมหิ กามสุขํ, กามสุขา กามคฺคสุขํ ตตฺถ อคฺคมกฺขายตี’ติฯ
(‘กาเมหิ, โภ โคตม, กามสุขํ, กามสุขา กามคฺคสุขํ, ตตฺถ อคฺคมกฺขายตี’ติ) [( ) สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] – ‘‘ทุชฺชานํ โข เอตํ, กจฺจาน, ตยา อญฺญทิฏฺฐิเกน อญฺญขนฺติเกน อญฺญรุจิเกน อญฺญตฺรโยเคน อญฺญตฺราจริยเกน – กามา [กามํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วา กามสุขํ วา กามคฺคสุขํ วาฯ เย โข เต, กจฺจาน, ภิกฺขู อรหนฺโต ขีณาสวา วุสิตวนฺโต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสํโยชนา สมฺมทญฺญา วิมุตฺตา เต โข เอตํ ชาเนยฺยุํ – กามา วา กามสุขํ วา กามคฺคสุขํ วา’’ติฯ
[281] เอวํ วุตฺเต, เวขนโส ปริพฺพาชโก กุปิโต อนตฺตมโน ภควนฺตํเยว ขุํเสนฺโต ภควนฺตํเยว วมฺเภนฺโต ภควนฺตํเยว วทมาโน ‘‘สมโณ [สมโณ จ (สี. ปี.)] โคตโม ปาปิโต ภวิสฺสตี’’ติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอวเมว ปนิเธกจฺเจ [ปนิเธเก (สี. ปี.), ปนิเมเก (อุปริสุภสุตฺเต)] สมณพฺราหฺมณา อชานนฺตา ปุพฺพนฺตํ, อปสฺสนฺตา อปรนฺตํ อถ จ ปน ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ – ปชานามา’ติ – ปฏิชานนฺติ [อิตฺถตฺตายาติ ปฏิชานนฺติ (ปี.)]ฯ เตสมิทํ ภาสิตํ หสฺสกํเยว สมฺปชฺชติ, นามกํเยว สมฺปชฺชติ, ริตฺตกํเยว สมฺปชฺชติ, ตุจฺฉกํเยว สมฺปชฺชตี’’ติฯ ‘‘เย โข เต, กจฺจาน, สมณพฺราหฺมณา อชานนฺตา ปุพฺพนฺตํ , อปสฺสนฺตา อปรนฺตํ, ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ – ปชานามา’ติ – ปฏิชานนฺติ; เตสํ โสเยว [เตสํ เตสายํ (สี.), เตสํเยว โส (?)] สหธมฺมิโก นิคฺคโห โหติฯ อปิ จ, กจฺจาน, ติฏฺฐตุ ปุพฺพนฺโต, ติฏฺฐตุ อปรนฺโตฯ เอตุ วิญฺญู ปุริโส อสโฐ อมายาวี อุชุชาติโก, อหมนุสาสามิ อหํ ธมฺมํ เทเสมิฯ ยถานุสิฏฺฐํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน [ยถานุสิฏฺฐํ ปฏิปชฺชมาโน (?)] นจิรสฺเสว สามญฺเญว ญสฺสติ สามํ ทกฺขิติ – เอวํ กิร สมฺมา [เอวํ กิรายสฺมา (สฺยา. ก.)] พนฺธนา วิปฺปโมกฺโข โหติ, ยทิทํ อวิชฺชา พนฺธนาฯ เสยฺยถาปิ, กจฺจาน, ทหโร กุมาโร มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก กณฺฐปญฺจเมหิ พนฺธเนหิ พทฺโธ อสฺส สุตฺตพนฺธเนหิ; ตสฺส วุทฺธิมนฺวาย อินฺทฺริยานํ ปริปากมนฺวาย ตานิ พนฺธนานิ มุจฺเจยฺยุํ; โส โมกฺโขมฺหีติ โข ชาเนยฺย โน จ พนฺธนํ ฯ
เอวเมว โข, กจฺจาน, เอตุ วิญฺญู ปุริโส อสโฐ อมายาวี อุชุชาติโก, อหมนุสาสามิ, อหํ ธมฺมํ เทเสมิ; ยถานุสิฏฺฐํ ตถา ปฏิปชฺชมาโน นจิรสฺเสว สามญฺเญ ญสฺสติ , สามํ ทกฺขิติ – ‘เอวํ กิร สมฺมา พนฺธนา วิปฺปโมกฺโข โหติ, ยทิทํ อวิชฺชา พนฺธนา’’’ติฯ
เอวํ วุตฺเต, เวขนโส ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ
เวขนสสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ทสมํฯ
ปริพฺพาชกวคฺโค นิฏฺฐิโต ตติโยฯ
ตสฺสุทฺทานํ –
ปุณฺฑรี-อคฺคิสห-กถินาโม, ทีฆนโข ปุน ภารทฺวาชโคตฺโต;
สนฺทกอุทายิมุณฺฑิกปุตฺโต, มณิโก ตถากจฺจาโน วรวคฺโคฯ
4. ราชวคฺโค
1. ฆฏิการสุตฺตํ
[282] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํฯ อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม อญฺญตรสฺมิํ ปเทเส สิตํ ปาตฺวากาสิฯ อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย ภควโต สิตสฺส ปาตุกมฺมาย? น อการเณน [น อการเณ (สี.)] ตถาคตา สิตํ ปาตุกโรนฺตี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เอกํสํ จีวรํ [อุตฺตราสงฺค (สฺยา. กํ.)] กตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย ภควโต สิตสฺส ปาตุกมฺมาย? น อการเณน ตถาคตา สิตํ ปาตุกโรนฺตี’’ติฯ ‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, อิมสฺมิํ ปเทเส เวคฬิงฺคํ [เวหลิงฺคํ (สี.), เวภลิคํ (สฺยา. กํ.), เวภลิงฺคํ (ปี.)] นาม คามนิคโม อโหสิ อิทฺโธ เจว ผีโต จ พหุชโน อากิณฺณมนุสฺโสฯ เวคฬิงฺคํ โข, อานนฺท, คามนิคมํ กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุปนิสฺสาย วิหาสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อาราโม อโหสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ นิสินฺนโก ภิกฺขุสงฺฆํ โอวทตี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อานนฺโท จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏิํ ปญฺญเปตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, ภควา นิสีทตุ เอตฺถฯ อยํ ภูมิปเทโส ทฺวีหิ อรหนฺเตหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ ปริภุตฺโต ภวิสฺสตี’’ติฯ นิสีทิ ภควา ปญฺญตฺเต อาสเนฯ นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ –
‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, อิมสฺมิํ ปเทเส เวคฬิงฺคํ นาม คามนิคโม อโหสิ อิทฺโธ เจว ผีโต จ พหุชโน อากิณฺณมนุสฺโสฯ เวคฬิงฺคํ โข, อานนฺท, คามนิคมํ กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุปนิสฺสาย วิหาสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสปสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อาราโม อโหสิฯ อิธ สุทํ, อานนฺท, กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ นิสินฺนโก ภิกฺขุสงฺฆํ โอวทติฯ