เมนู

4. โปตลิยสุตฺตํ

[31] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา องฺคุตฺตราเปสุ วิหรติ อาปณํ นาม องฺคุตฺตราปานํ นิคโมฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อาปณํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ อาปเณ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยนญฺญตโร วนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหารายฯ ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา [อชฺโฌคเหตฺวา (สี. สฺยา. กํ.), อชฺโฌคาหิตฺวา (ปี. ก.)] อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิฯ โปตลิโยปิ โข คหปติ สมฺปนฺนนิวาสนปาวุรโณ [ปาปุรโณ (สี. สฺยา. กํ.)] ฉตฺตุปาหนาหิ [ฉตฺตุปาหโน (ก.)] ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน เยน โส วนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิตํ โข โปตลิยํ คหปติํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สํวิชฺชนฺติ โข, คหปติ, อาสนานิ; สเจ อากงฺขสิ นิสีทา’’ติฯ เอวํ วุตฺเต, โปตลิโย คหปติ ‘‘คหปติวาเทน มํ สมโณ โคตโม สมุทาจรตี’’ติ กุปิโต อนตฺตมโน ตุณฺหี อโหสิฯ ทุติยมฺปิ โข ภควา…เป.… ตติยมฺปิ โข ภควา โปตลิยํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘สํวิชฺชนฺติ โข, คหปติ, อาสนานิ; สเจ อากงฺขสิ นิสีทา’’ติฯ ‘‘เอวํ วุตฺเต, โปตลิโย คหปติ คหปติวาเทน มํ สมโณ โคตโม สมุทาจรตี’’ติ กุปิโต อนตฺตมโน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ตยิทํ, โภ โคตม, นจฺฉนฺนํ, ตยิทํ นปฺปติรูปํ, ยํ มํ ตฺวํ คหปติวาเทน สมุทาจรสี’’ติฯ ‘‘เต หิ เต, คหปติ, อาการา, เต ลิงฺคา , เต นิมิตฺตา ยถา ตํ คหปติสฺสา’’ติฯ ‘‘ตถา หิ ปน เม, โภ โคตม, สพฺเพ กมฺมนฺตา ปฏิกฺขิตฺตา, สพฺเพ โวหารา สมุจฺฉินฺนา’’ติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน เต, คหปติ, สพฺเพ กมฺมนฺตา ปฏิกฺขิตฺตา, สพฺเพ โวหารา สมุจฺฉินฺนา’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ โคตม, ยํ อโหสิ ธนํ วา ธญฺญํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา สพฺพํ ตํ ปุตฺตานํ ทายชฺชํ นิยฺยาตํ, ตตฺถาหํ อโนวาที อนุปวาที ฆาสจฺฉาทนปรโม วิหรามิฯ เอวํ โข เม [เอวญฺจ เม (สฺยา.), เอวํ เม (ก.)], โภ โคตม, สพฺเพ กมฺมนฺตา ปฏิกฺขิตฺตา, สพฺเพ โวหารา สมุจฺฉินฺนา’’ติฯ ‘‘อญฺญถา โข ตฺวํ, คหปติ, โวหารสมุจฺเฉทํ วทสิ, อญฺญถา จ ปน อริยสฺส วินเย โวหารสมุจฺเฉโท โหตี’’ติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, อริยสฺส วินเย โวหารสมุจฺเฉโท โหติ? สาธุ เม, ภนฺเต , ภควา ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อริยสฺส วินเย โวหารสมุจฺเฉโท โหตี’’ติฯ ‘‘เตน หิ, คหปติ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โปตลิโย คหปติ ภควโต ปจฺจสฺโสสิฯ

[32] ภควา เอตทโวจ – ‘‘อฏฺฐ โข อิเม, คหปติ, ธมฺมา อริยสฺส วินเย โวหารสมุจฺเฉทาย สํวตฺตนฺติฯ กตเม อฏฺฐ? อปาณาติปาตํ นิสฺสาย ปาณาติปาโต ปหาตพฺโพ; ทินฺนาทานํ นิสฺสาย อทินฺนาทานํ ปหาตพฺพํ; สจฺจวาจํ [สจฺจํ วาจํ (สฺยา.)] นิสฺสาย มุสาวาโท ปหาตพฺโพ; อปิสุณํ วาจํ นิสฺสาย ปิสุณา วาจา ปหาตพฺพา; อคิทฺธิโลภํ นิสฺสาย คิทฺธิโลโภ ปหาตพฺโพ; อนินฺทาโรสํ นิสฺสาย นินฺทาโรโส ปหาตพฺโพ; อกฺโกธูปายาสํ นิสฺสาย โกธูปายาโส ปหาตพฺโพ; อนติมานํ นิสฺสาย อติมาโน ปหาตพฺโพฯ อิเม โข, คหปติ, อฏฺฐ ธมฺมา สํขิตฺเตน วุตฺตา, วิตฺถาเรน อวิภตฺตา, อริยสฺส วินเย โวหารสมุจฺเฉทาย สํวตฺตนฺตี’’ติฯ ‘‘เย เม [เย เม ปน (สฺยา. ก.)], ภนฺเต, ภควตา อฏฺฐ ธมฺมา สํขิตฺเตน วุตฺตา, วิตฺถาเรน อวิภตฺตา, อริยสฺส วินเย โวหารสมุจฺเฉทาย สํวตฺตนฺติ, สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา อิเม อฏฺฐ ธมฺเม วิตฺถาเรน [วิตฺถาเรตฺวา (ก.)] วิภชตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ ‘‘เตน หิ, คหปติ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โปตลิโย คหปติ ภควโต ปจฺจสฺโสสิฯ ภควา เอตทโวจ –

[33] ‘‘‘อปาณาติปาตํ นิสฺสาย ปาณาติปาโต ปหาตพฺโพ’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ กิญฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘เยสํ โข อหํ สํโยชนานํ เหตุ ปาณาติปาตี อสฺสํ, เตสาหํ สํโยชนานํ ปหานาย สมุจฺเฉทาย ปฏิปนฺโนฯ อหญฺเจว [อหญฺเจ (?)] โข ปน ปาณาติปาตี อสฺสํ, อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย ปาณาติปาตปจฺจยา, อนุวิจฺจาปิ มํ วิญฺญู [อนุวิจฺจ วิญฺญู (สี. สฺยา. ปี.)] ครเหยฺยุํ ปาณาติปาตปจฺจยา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา ปาณาติปาตปจฺจยาฯ เอตเทว โข ปน สํโยชนํ เอตํ นีวรณํ ยทิทํ ปาณาติปาโตฯ เย จ ปาณาติปาตปจฺจยา อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, ปาณาติปาตา ปฏิวิรตสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ’ฯ ‘อปาณาติปาตํ นิสฺสาย ปาณาติปาโต ปหาตพฺโพ’ติ – อิติ ยนฺตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํฯ

[34] ‘‘‘ทินฺนาทานํ นิสฺสาย อทินฺนาทานํ ปหาตพฺพ’นฺติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิญฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘เยสํ โข อหํ สํโยชนานํ เหตุ อทินฺนาทายี อสฺสํ, เตสาหํ สํโยชนานํ ปหานาย สมุจฺเฉทาย ปฏิปนฺโนฯ อหญฺเจว โข ปน อทินฺนาทายี อสฺสํ, อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย อทินฺนาทานปจฺจยา, อนุวิจฺจาปิ มํ วิญฺญู ครเหยฺยุํ อทินฺนาทานปจฺจยา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา อทินฺนาทานปจฺจยาฯ เอตเทว โข ปน สํโยชนํ เอตํ นีวรณํ ยทิทํ อทินฺนาทานํฯ เย จ อทินฺนาทานปจฺจยา อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ’ฯ ‘ทินฺนาทานํ นิสฺสาย อทินฺนาทานํ ปหาตพฺพ’นฺติ – อิติ ยนฺตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํฯ

[35] ‘‘‘สจฺจวาจํ นิสฺสาย มุสาวาโท ปหาตพฺโพ’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ กิญฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘เยสํ โข อหํ สํโยชนานํ เหตุ มุสาวาที อสฺสํ, เตสาหํ สํโยชนานํ ปหานาย สมุจฺเฉทาย ปฏิปนฺโนฯ อหญฺเจว โข ปน มุสาวาที อสฺสํ, อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย มุสาวาทปจฺจยา, อนุวิจฺจาปิ มํ วิญฺญู ครเหยฺยุํ มุสาวาทปจฺจยา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา มุสาวาทปจฺจยาฯ

เอตเทว โข ปน สํโยชนํ เอตํ นีวรณํ ยทิทํ มุสาวาโท ฯ เย จ มุสาวาทปจฺจยา อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, มุสาวาทา ปฏิวิรตสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ’ฯ ‘สจฺจวาจํ นิสฺสาย มุสาวาโท ปหาตพฺโพ’ติ – อิติ ยนฺตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํฯ

[36] ‘‘‘อปิสุณํ วาจํ นิสฺสาย ปิสุณา วาจา ปหาตพฺพา’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ กิญฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘เยสํ โข อหํ สํโยชนานํ เหตุ ปิสุณวาโจ อสฺสํ, เตสาหํ สํโยชนานํ ปหานาย สมุจฺเฉทาย ปฏิปนฺโนฯ อหญฺเจว โข ปน ปิสุณวาโจ อสฺสํ, อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย ปิสุณวาจาปจฺจยา , อนุวิจฺจาปิ มํ วิญฺญู ครเหยฺยุํ ปิสุณวาจาปจฺจยา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา ปิสุณวาจาปจฺจยาฯ เอตเทว โข ปน สํโยชนํ เอตํ นีวรณํ ยทิทํ ปิสุณา วาจาฯ เย จ ปิสุณวาจาปจฺจยา อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ’ฯ ‘อปิสุณํ วาจํ นิสฺสาย ปิสุณา วาจา ปหาตพฺพา’ติ – อิติ ยนฺตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํฯ

[37] ‘‘‘อคิทฺธิโลภํ นิสฺสาย คิทฺธิโลโภ ปหาตพฺโพ’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิญฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘เยสํ โข อหํ สํโยชนานํ เหตุ คิทฺธิโลภี อสฺสํ, เตสาหํ สํโยชนานํ ปหานาย สมุจฺเฉทาย ปฏิปนฺโนฯ อหญฺเจว โข ปน คิทฺธิโลภี อสฺสํ, อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย คิทฺธิโลภปจฺจยา, อนุวิจฺจาปิ มํ วิญฺญู ครเหยฺยุํ คิทฺธิโลภปจฺจยา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา คิทฺธิโลภปจฺจยาฯ เอตเทว โข ปน สํโยชนํ เอตํ นีวรณํ ยทิทํ คิทฺธิโลโภฯ เย จ คิทฺธิโลภปจฺจยา อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, คิทฺธิโลภา ปฏิวิรตสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ’ฯ ‘อคิทฺธิโลภํ นิสฺสาย คิทฺธิโลโภ ปหาตพฺโพ’ติ – อิติ ยนฺตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํฯ

[38] ‘‘‘อนินฺทาโรสํ นิสฺสาย นินฺทาโรโส ปหาตพฺโพ’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิญฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘เยสํ โข อหํ สํโยชนานํ เหตุ นินฺทาโรสี อสฺสํ, เตสาหํ สํโยชนานํ ปหานาย สมุจฺเฉทาย ปฏิปนฺโนฯ อหญฺเจว โข ปน นินฺทาโรสี อสฺสํ, อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย นินฺทาโรสปจฺจยา, อนุวิจฺจาปิ มํ วิญฺญู ครเหยฺยุํ นินฺทาโรสปจฺจยา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา นินฺทาโรสปจฺจยาฯ เอตเทว โข ปน สํโยชนํ เอตํ นีวรณํ ยทิทํ นินฺทาโรโสฯ เย จ นินฺทาโรสปจฺจยา อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, อนินฺทาโรสิสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ’ฯ ‘อนินฺทาโรสํ นิสฺสาย นินฺทาโรโส ปหาตพฺโพ’ติ – อิติ ยนฺตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํฯ

[39] ‘‘‘อกฺโกธูปายาสํ นิสฺสาย โกธูปายาโส ปหาตพฺโพ’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิญฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘เยสํ โข อหํ สํโยชนานํ เหตุ โกธูปายาสี อสฺสํ, เตสาหํ สํโยชนานํ ปหานาย สมุจฺเฉทาย ปฏิปนฺโนฯ อหญฺเจว โข ปน โกธูปายาสี อสฺสํ, อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย โกธูปายาสปจฺจยา , อนุวิจฺจาปิ มํ วิญฺญู ครเหยฺยุํ โกธูปายาสปจฺจยา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา โกธูปายาสปจฺจยาฯ เอตเทว โข ปน สํโยชนํ เอตํ นีวรณํ ยทิทํ โกธูปายาโสฯ เย จ โกธูปายาสปจฺจยา อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, อกฺโกธูปายาสิสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ’ฯ ‘อกฺโกธูปายาสํ นิสฺสาย โกธูปายาโส ปหาตพฺโพ’ติ – อิติ ยนฺตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํฯ

[40] ‘‘‘อนติมานํ นิสฺสาย อติมาโน ปหาตพฺโพ’ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิญฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘เยสํ โข อหํ สํโยชนานํ เหตุ อติมานี อสฺสํ, เตสาหํ สํโยชนานํ ปหานาย สมุจฺเฉทาย ปฏิปนฺโนฯ อหญฺเจว โข ปน อติมานี อสฺสํ, อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺย อติมานปจฺจยา, อนุวิจฺจาปิ มํ วิญฺญู ครเหยฺยุํ อติมานปจฺจยา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา อติมานปจฺจยาฯ เอตเทว โข ปน สํโยชนํ เอตํ นีวรณํ ยทิทํ อติมาโนฯ เย จ อติมานปจฺจยา อุปฺปชฺเชยฺยุํ อาสวา วิฆาตปริฬาหา, อนติมานิสฺส เอวํส เต อาสวา วิฆาตปริฬาหา น โหนฺติ’ฯ ‘อนติมานํ นิสฺสาย อติมาโน ปหาตพฺโพ’ติ – อิติ ยนฺตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํฯ

[41] ‘‘อิเม โข, คหปติ, อฏฺฐ ธมฺมา สํขิตฺเตน วุตฺตา, วิตฺถาเรน วิภตฺตา [อวิภตฺตา (สฺยา. ก.)], เย อริยสฺส วินเย โวหารสมุจฺเฉทาย สํวตฺตนฺติ; น ตฺเวว ตาว อริยสฺส วินเย สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ โวหารสมุจฺเฉโท โหตี’’ติฯ

‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, อริยสฺส วินเย สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ โวหารสมุจฺเฉโท โหติ? สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อริยสฺส วินเย สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ โวหารสมุจฺเฉโท โหตี’’ติฯ ‘‘เตน หิ, คหปติ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โปตลิโย คหปติ ภควโต ปจฺจสฺโสสิฯ ภควา เอตทโวจ –

กามาทีนวกถา

[42] ‘‘เสยฺยถาปิ , คหปติ, กุกฺกุโร ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปเรโต โคฆาตกสูนํ ปจฺจุปฏฺฐิโต อสฺสฯ ตเมนํ ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา อฏฺฐิกงฺกลํ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ อุปสุมฺเภยฺย [อุปจฺฉุเภยฺย (สี. ปี.), อุปจฺฉูเภยฺย (สฺยา. กํ.), อุปจฺจุมฺเภยฺย (ก.)]ฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, อปิ นุ โข โส กุกฺกุโร อมุํ อฏฺฐิกงฺกลํ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ ปเลหนฺโต ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยํ ปฏิวิเนยฺยา’’ติ?

‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ฯ

‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’?

‘‘อทุญฺหิ, ภนฺเต, อฏฺฐิกงฺกลํ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํฯ ยาวเทว ปน โส กุกฺกุโร กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสาติฯ เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘อฏฺฐิกงฺกลูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา [พหูปายาสา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’ติฯ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ทิสฺวา ยายํ อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตา ตํ อภินิวชฺเชตฺวา, ยายํ อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา ยตฺถ สพฺพโส โลกามิสูปาทานา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติฯ

[43] ‘‘เสยฺยถาปิ, คหปติ, คิชฺโฌ วา กงฺโก วา กุลโล วา มํสเปสิํ อาทาย อุฑฺฑีเยยฺย [อุฑฺฑเยยฺย (สฺยา. ปี.)]