กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ ‘‘เอโก มคฺคํ คจฺฉนฺโต นิมนุสฺสฏฺฐาเน กิญฺจิ ภณฺฑํ ปสฺสติ, อากิณฺณมนุสฺเสปิ ชาเต มนุสฺสา ตเมว ภิกฺขุํ อาสงฺกนฺติ, ตสฺมา มคฺคา โอกฺกมฺม นิสีทิตพฺพํฯ สามิเกสุ อาคเตสุ ตํ อาจิกฺขิตพฺพํฯ สเจ สามิเก น ปสฺสติ ปติรูปํ กริสฺสตี’’ติฯ
รูเปน วา นิมิตฺเตน วา สญฺญาณํ กตฺวาติ เอตฺถ รูปํ นาม อนฺโตภณฺฑิกาย ภณฺฑํ; ตสฺมา ภณฺฑิกํ มุญฺจิตฺวา คเณตฺวา เอตฺตกา กหาปณา วา ชาตรูปรชตํ วาติ สลฺลกฺเขตพฺพํฯ นิมิตฺตนฺติ ลญฺฉนาทิ; ตสฺมา ลญฺฉิตาย ภณฺฑิกาย มตฺติกาลญฺฉนนฺติ วา ลาขาลญฺฉนนฺติ วา นีลปิโลติกาย ภณฺฑิกา กตาติ วา เสตปิโลติกาย กตาติ วา เอวมาทิ สพฺพํ สลฺลกฺเขตพฺพํฯ
ภิกฺขู ปติรูปาติ ลชฺชิโน กุกฺกุจฺจกาฯ โลลชาติกานญฺหิ หตฺเถ ฐเปตุํ น ลภติฯ โย ปน เนว ตมฺหา อาวาสา ปกฺกมติ, น สามิเก ปสฺสติ, เตนาปิ อตฺตโน จีวราทิมูลํ น กาตพฺพํ; ถาวรํ ปน เสนาสนํ วา เจติยํ วา โปกฺขรณี วา กาเรตพฺพาฯ สเจ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน สามิโก อาคจฺฉติ, ‘‘อุปาสก ตว สนฺตเกน อิทํ นาม กตํ, อนุโมทาหี’’ติ วตฺตพฺโพฯ สเจ อนุโมทติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ อนุโมทติ, ‘‘มม ธนํ เทถา’’ติ โจเทติเยว, อญฺญํ สมาทเปตฺวา ทาตพฺพํฯ
[507] รตนสมฺมตํ วิสฺสาสํ คณฺหาตีติอาทีสุ อามาสเมว สนฺธาย วุตฺตํฯ อนามาสํ น วฏฺฏติเยวฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ ฉสมุฏฺฐานํ – กิริยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ
รตนสิกฺขาปทํ ทุติยํฯ
3. วิกาลคามปฺปวิสนสิกฺขาปทวณฺณนา
[508] ตติเย – ติรจฺฉานกถนฺติ อริยมคฺคสฺส ติรจฺฉานภูตํ กถํฯ ราชกถนฺติ ราชปฏิสํยุตฺต กถํฯ โจรกถาทีสุปิ เอเสว นโยฯ
[512] สนฺตํ ภิกฺขุนฺติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ , ตํ จาริตฺตสิกฺขาปเท วุตฺตเมวฯ