อปิจ อนฺโตอุปจารสีมาย ภิกฺขุํ ทิสฺวา อาปุจฺฉิสฺสามีติ คนฺตฺวา ตตฺถ ยํ ปสฺสติ, โส อาปุจฺฉิตพฺโพฯ โน เจ ปสฺสติ, อสนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา ปวิฏฺโฐ นาม โหติฯ
[302] อนฺตรารามนฺติ อนฺโตคาเม วิหาโร โหติ, ตํ คจฺฉติฯ ภตฺติยฆรนฺติ นิมนฺติตฆรํ วา สลากภตฺตาทิทายกานํ วา ฆรํฯ อาปทาสูติ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตราเยสุ สติ คนฺตุํ วฏฺฏติฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ
กถินสมุฏฺฐานํ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺฐาติ, กิริยากิรยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ
จาริตฺตสิกฺขาปทํ ฉฏฺฐํฯ
7. มหานามสิกฺขาปทวณฺณนา
[303] สตฺตมสิกฺขาปเท – มหานาโม นาม ภควโต จูฬปิตุปุตฺโต มาสมตฺเตน มหลฺลกตโร ทฺวีสุ ผเลสุ ปติฏฺฐิโต อริยสาวโกฯ เภสชฺชํ อุสฺสนฺนํ โหตีติ วชโต อาหริตฺวา ฐปิตสปฺปิ พหุ โหติฯ
[306] สาทิตพฺพาติ ตสฺมิํ สมเย โรโค นตฺถีติ น ปฏิกฺขิปิตพฺพา; โรเค สติ วิญฺญาเปสฺสามีติ อธิวาเสตพฺพาฯ เอตฺตเกหิ เภสชฺเชหิ ปวาเรมีติ นามวเสน สปฺปิเตลาทีสุ ทฺวีหิ ตีหิ วา ปริมาณวเสน ปตฺเถน นาฬิยา อาฬฺหเกนาติ วาฯอญฺญํ เภสชฺชํ วิญฺญาเปตีติ สปฺปินา ปวาริโต เตลํ วิญฺญาเปติ, อาฬฺหเกน ปวาริโต โทณํฯ น เภสชฺเชน กรณีเยนาติ มิสฺสกภตฺเตนปิ เจ ยาเปตุํ สกฺโกติ, น เภสชฺชกรณียํ นาม โหติฯ
[310] ปวาริตานนฺติ เย อตฺตโน ปุคฺคลิกาย ปวารณาย ปวาริตา; เตสํ ปวาริตานุรูเปน วิญฺญตฺติยา อนาปตฺติฯ สงฺฆวเสน ปวาริเตสุ ปน ปมาณํ สลฺลกฺเขตพฺพเมวาติฯ เสสํ อุตฺตานเมวฯ