เมนู

‘‘ตตฺร, สาริปุตฺต, ยฺวายํ น เหว [นเหว โข (สี. สฺยา.)] สาเปโข ทานํ เทติ; น ปติพทฺธจิตฺโต ทานํ เทติ; น สนฺนิธิเปโข ทานํ เทติ; น ‘อิมํ เปจฺจ ปริภุญฺชิสฺสามี’ติ ทานํ เทติ; นปิ ‘สาหุ ทาน’นฺติ ทานํ เทติ; นปิ ‘ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ปิตุปิตามเหหิ น อรหามิ โปราณํ กุลวํสํ หาเปตุ’นฺติ ทานํ เทติ; นปิ ‘อหํ ปจามิ, อิเม น ปจนฺติ, นารหามิ ปจนฺโต อปจนฺตานํ ทานํ อทาตุ’นฺติ ทานํ เทติ; นปิ ‘ยถา เตสํ ปุพฺพกานํ อิสีนํ ตานิ มหายญฺญานิ อเหสุํ, เสยฺยถิทํ – อฏฺฐกสฺส วามกสฺส วามเทวสฺส เวสฺสามิตฺตสฺส ยมทคฺคิโน องฺคีรสสฺส ภารทฺวาชสฺส วาเสฏฺฐสฺส กสฺสปสฺส ภคุโน, เอวํ เม อยํ ทานสํวิภาโค ภวิสฺสตี’ติ ทานํ เทติ; นปิ ‘อิมํ เม ทานํ ททโต จิตฺตํ ปสีทติ, อตฺตมนตา โสมนสฺสํ อุปชายตี’ติ ทานํ เทติ; อปิ จ โข จิตฺตาลงฺการจิตฺตปริกฺขารํ ทานํ เทติฯ โส ตํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ โส ตํ กมฺมํ เขเปตฺวา ตํ อิทฺธิํ ตํ ยสํ ตํ อาธิปจฺจํ อนาคามี โหติ อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํฯ อยํ โข, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํฯ อยํ ปน, สาริปุตฺต, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน มิเธกจฺจสฺส ตาทิสํเยว ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํส’’นฺติฯ นวมํฯ

10. นนฺทมาตาสุตฺตํ

[53] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา จ สาริปุตฺโต อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน ทกฺขิณาคิริสฺมิํ จาริกํ จรนฺติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํฯ เตน โข ปน สมเยน เวฬุกณฺฑกี [เวฬุกณฺฑกี (สฺยา.) อ. นิ. 6.37; 2.134; สํ. นิ. 2.173 ปสฺสิตพฺพํ] นนฺทมาตา อุปาสิกา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย ปารายนํ [จูฬนิ. ปารายนวคฺค, วตฺถุคาถา] สเรน ภาสติฯ

เตน โข ปน สมเยน เวสฺสวโณ มหาราชา อุตฺตราย ทิสาย ทกฺขิณํ ทิสํ คจฺฉติ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อสฺโสสิ โข เวสฺสวโณ มหาราชา นนฺทมาตาย อุปาสิกาย ปารายนํ สเรน ภาสนฺติยา, สุตฺวา กถาปริโยสานํ อาคมยมาโน อฏฺฐาสิฯ

อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา ปารายนํ สเรน ภาสิตฺวา ตุณฺหี อโหสิฯ อถ โข เวสฺสวโณ มหาราชา นนฺทมาตาย อุปาสิกาย กถาปริโยสานํ วิทิตฺวา อพฺภานุโมทิ – ‘‘สาธุ ภคินิ, สาธุ ภคินี’’ติ! ‘‘โก ปเนโส, ภทฺรมุขา’’ติ? ‘‘อหํ เต, ภคินิ, ภาตา เวสฺสวโณ, มหาราชา’’ติฯ

‘‘สาธุ, ภทฺรมุข, เตน หิ โย เม อยํ ธมฺมปริยาโย ภณิโต อิทํ เต โหตุ อาติเถยฺย’’นฺติฯ ‘‘สาธุ, ภคินิ, เอตญฺเจว เม โหตุ อาติเถยฺยํฯ สฺเวว [สฺเว จ (สี.)] สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ อกตปาตราโส เวฬุกณฺฑกํ อาคมิสฺสติ, ตญฺจ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิตฺวา มม ทกฺขิณํ อาทิเสยฺยาสิฯ เอตญฺเจว [เอวญฺจ (สี. สฺยา.), เอตญฺจ (?)] เม ภวิสฺสติ อาติเถยฺย’’นฺติฯ

อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปสิฯ อถ โข สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ อกตปาตราโส เยน เวฬุกณฺฑโก ตทวสริฯ อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา อญฺญตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส กาลํ อาโรเจหิ – ‘กาโล, ภนฺเต, อยฺยาย นนฺทมาตุยา นิเวสเน นิฏฺฐิตํ ภตฺต’’’นฺติฯ ‘‘เอวํ, อยฺเย’’ติ โข โส ปุริโส นนฺทมาตาย อุปาสิกาย ปฏิสฺสุตฺวา อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส กาลํ อาโรเจสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, อยฺยาย นนฺทมาตุยา นิเวสเน นิฏฺฐิตํ ภตฺต’’นฺติฯ อถ โข สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน นนฺทมาตาย อุปาสิกาย นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิฯ

อถ โข นนฺทมาตา อุปาสิกา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข นนฺทมาตรํ อุปาสิกํ อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ – ‘‘โก ปน เต, นนฺทมาเต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อพฺภาคมนํ อาโรเจสี’’ติ?

‘‘อิธาหํ, ภนฺเต , รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย ปารายนํ สเรน ภาสิตฺวา ตุณฺหี อโหสิํฯ อถ โข, ภนฺเต, เวสฺสวโณ มหาราชา มม กถาปริโยสานํ วิทิตฺวา อพฺภานุโมทิ – ‘สาธุ, ภคินิ, สาธุ, ภคินี’ติ! ‘โก ปเนโส, ภทฺรมุขา’ติ? ‘อหํ เต, ภคินิ, ภาตา เวสฺสวโณ, มหาราชา’ติฯ

‘สาธุ, ภทฺรมุข, เตน หิ โย เม อยํ ธมฺมปริยาโย ภณิโต อิทํ เต โหตุ อาติเถยฺย’นฺติฯ ‘สาธุ, ภคินิ, เอตญฺเจว เม โหตุ อาติเถยฺยํฯ สฺเวว สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ อกตปาตราโส เวฬุกณฺฑกํ อาคมิสฺสติ, ตญฺจ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิตฺวา มม ทกฺขิณํ อาทิเสยฺยาสิฯ เอตญฺเจว [เอตญฺจ (สี.), เอวญฺจ (สฺยา.)] เม ภวิสฺสติ อาติเถยฺย’นฺติฯ ยทิทํ [ยมิทํ (ม. นิ. 1.363)], ภนฺเต, ทาเน [ปุญฺญํ หิ ตํ (สี.), ปุญฺญํ ปุญฺญมหิตํ (สฺยา.), ปุญฺญํ วา ปุญฺญมหํ วา (ปี.), ปุญฺญํ วา ปุญฺญมหี วา (ก.)] ปุญฺญญฺจ ปุญฺญมหี จ ตํ [ปุญฺญํ หิ ตํ (สี.), ปุญฺญํ ปุญฺญมหิตํ (สฺยา.), ปุญฺญํ วา ปุญฺญมหํ วา (ปี.), ปุญฺญํ วา ปุญฺญมหี วา (ก.)] เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส สุขาย โหตู’’ติฯ

‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต! ยตฺร หิ นาม เวสฺสวเณน มหาราเชน เอวํมหิทฺธิเกน เอวํมเหสกฺเขน เทวปุตฺเตน สมฺมุขา สลฺลปิสฺสสี’’ติฯ

‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโมฯ อตฺถิ เม อญฺโญปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโมฯ อิธ เม, ภนฺเต, นนฺโท นาม เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโปฯ ตํ ราชาโน กิสฺมิญฺจิเทว ปกรเณ โอกสฺส ปสยฺห ชีวิตา โวโรเปสุํฯ ตสฺมิํ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ทารเก คหิเต วา คยฺหมาเน วา วเธ วา วชฺฌมาเน วา หเต วา หญฺญมาเน วา นาภิชานามิ จิตฺตสฺส อญฺญถตฺต’’นฺติฯ ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ นนฺทมาเต! ยตฺร หิ นาม จิตฺตุปฺปาทมฺปิ [จิตฺตุปฺปาทมตฺตมฺปิ (สฺยา.)] ปริโสเธสฺสสี’’ติฯ

‘‘น โข เม, ภนฺเต , เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโมฯ อตฺถิ เม อญฺโญปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโมฯ อิธ เม, ภนฺเต, สามิโก กาลงฺกโต อญฺญตรํ ยกฺขโยนิํ อุปปนฺโนฯ โส เม เตเนว ปุริเมน อตฺตภาเวน อุทฺทสฺเสสิฯ น โข ปนาหํ, ภนฺเต, อภิชานามิ ตโตนิทานํ จิตฺตสฺส อญฺญถตฺต’’นฺติฯ ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต! ยตฺร หิ นาม จิตฺตุปฺปาทมฺปิ ปริโสเธสฺสสี’’ติฯ

‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโมฯ อตฺถิ เม อญฺโญปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโมฯ ยโตหํ, ภนฺเต, สามิกสฺส ทหรสฺเสว ทหรา อานีตา นาภิชานามิ สามิกํ มนสาปิ อติจริตา [อติจริตุํ (สฺยา.), อติจาริตฺตํ (ก.)], กุโต ปน กาเยนา’’ติ! ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต! ยตฺร หิ นาม จิตฺตุปฺปาทมฺปิ ปริโสเธสฺสสี’’ติฯ

‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโมฯ อตฺถิ เม อญฺโญปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโมฯ ยทาหํ, ภนฺเต, อุปาสิกา ปฏิเทสิตา นาภิชานามิ กิญฺจิ สิกฺขาปทํ สญฺจิจฺจ วีติกฺกมิตา’’ติฯ ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต’’ติ!

‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโมฯ อตฺถิ เม อญฺโญปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโมฯ อิธาหํ, ภนฺเต, ยาวเทว [ยาวเทว (สี. สฺยา.) สํ. นิ. 2.152 ปาฬิ จ อฏฺฐกถาฏีกา จ ปสฺสิตพฺพา] อากงฺขามิ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิฯ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิฯ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขิกา จ วิหรามิ สตา จ สมฺปชานา สุขญฺจ กาเย ปฏิสํเวเทมิ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิฯ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’’ติฯ ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต’’ติ!

‘‘น โข เม, ภนฺเต, เอเสว อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโมฯ อตฺถิ เม อญฺโญปิ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโมฯ ยานิมานิ, ภนฺเต, ภควตา เทสิตานิ ปญฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ นาหํ เตสํ กิญฺจิ อตฺตนิ อปฺปหีนํ สมนุปสฺสามี’’ติฯ ‘‘อจฺฉริยํ, นนฺทมาเต, อพฺภุตํ, นนฺทมาเต’’ติ!

อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต นนฺทมาตรํ อุปาสิกํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามีติฯ ทสมํฯ

มหายญฺญวคฺโค ปญฺจโมฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

ฐิติ จ ปริกฺขารํ ทฺเว, อคฺคี สญฺญา จ ทฺเว ปรา;

เมถุนา สํโยโค ทานํ, นนฺทมาเตน เต ทสาติฯ

ปฐมปณฺณาสกํ สมตฺตํฯ

6. อพฺยากตวคฺโค

1. อพฺยากตสุตฺตํ

[54] อถ โข อญฺญตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยน สุตวโต อริยสาวกสฺส วิจิกิจฺฉา นุปฺปชฺชติ อพฺยากตวตฺถูสู’’ติ?

‘‘ทิฏฺฐินิโรธา โข, ภิกฺขุ, สุตวโต อริยสาวกสฺส วิจิกิจฺฉา นุปฺปชฺชติ อพฺยากตวตฺถูสุฯ ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, ภิกฺขุ, ทิฏฺฐิคตเมตํ; ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, ภิกฺขุ, ทิฏฺฐิคตเมตํ; ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, ภิกฺขุ, ทิฏฺฐิคตเมตํ; ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, ภิกฺขุ, ทิฏฺฐิคตเมตํฯ อสฺสุตวา, ภิกฺขุ, ปุถุชฺชโน ทิฏฺฐิํ นปฺปชานาติ, ทิฏฺฐิสมุทยํ นปฺปชานาติ, ทิฏฺฐินิโรธํ นปฺปชานาติ, ทิฏฺฐินิโรธคามินิํ ปฏิปทํ นปฺปชานาติฯ ตสฺส สา ทิฏฺฐิ ปวฑฺฒติ, โส น ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิฯ

‘‘สุตวา จ โข, ภิกฺขุ, อริยสาวโก ทิฏฺฐิํ ปชานาติ, ทิฏฺฐิสมุทยํ ปชานาติ, ทิฏฺฐินิโรธํ ปชานาติ, ทิฏฺฐินิโรธคามินิํ ปฏิปทํ ปชานาติฯ ตสฺส สา ทิฏฺฐิ นิรุชฺฌติ, โส ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิฯ เอวํ ชานํ โข, ภิกฺขุ, สุตวา อริยสาวโก เอวํ ปสฺสํ ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น พฺยากโรติ; ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น พฺยากโรติ; ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น พฺยากโรติ; ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น พฺยากโรติฯ เอวํ ชานํ โข, ภิกฺขุ, สุตวา อริยสาวโก เอวํ ปสฺสํ เอวํ อพฺยากรณธมฺโม โหติ อพฺยากตวตฺถูสุ ฯ เอวํ ชานํ โข, ภิกฺขุ, สุตวา อริยสาวโก เอวํ ปสฺสํ น ฉมฺภติ, น กมฺปติ, น เวธติ, น สนฺตาสํ อาปชฺชติ อพฺยากตวตฺถูสุฯ