เมนู

เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘อภาวิตา เม ทุกฺเข อนตฺตสญฺญา , นตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, อปฺปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติฯ อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติฯ

‘‘สเจ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ทุกฺเข อนตฺตสญฺญาปริจิเตน เจตสา พหุลํ วิหรโต อิมสฺมิญฺจ สวิญฺญาณเก กาเย พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตสุ อหงฺการมมงฺการมานาปคตํ มานสํ โหติ วิธาสมติกฺกนฺตํ สนฺตํ สุวิมุตฺตํฯ เวทิตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ‘สุภาวิตา เม ทุกฺเข อนตฺตสญฺญา, อตฺถิ เม ปุพฺเพนาปรํ วิเสโส, ปตฺตํ เม ภาวนาพล’นฺติฯ อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติฯ ‘ทุกฺเข อนตฺตสญฺญา, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํฯ

‘‘อิมา โข, ภิกฺขเว, สตฺต สญฺญา ภาวิตา พหุลีกตา มหปฺผลา โหนฺติ มหานิสํสา อมโตคธา อมตปริโยสานา’’ติฯ ฉฏฺฐํฯ

7. เมถุนสุตฺตํ

[50] อถ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภวมฺปิ โน โคตโม พฺรหฺมจารี ปฏิชานาตี’’ติ? ‘‘ยญฺหิ ตํ, พฺราหฺมณ, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อขณฺฑํ อจฺฉิทฺทํ อสพลํ อกมฺมาสํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรตี’ติ, มเมว ตํ, พฺราหฺมณ, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อหญฺหิ, พฺราหฺมณ, อขณฺฑํ อจฺฉิทฺทํ อสพลํ อกมฺมาสํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรามี’’’ติฯ ‘‘กิํ ปน, โภ โคตม, พฺรหฺมจริยสฺส ขณฺฑมฺปิ ฉิทฺทมฺปิ สพลมฺปิ กมฺมาสมฺปี’’ติ?

‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา สมฺมา พฺรหฺมจารี ปฏิชานมาโน น เหว โข มาตุคาเมน สทฺธิํ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติํ สมาปชฺชติ; อปิ จ โข มาตุคามสฺส อุจฺฉาทนปริมทฺทนนฺหาปนสมฺพาหนํ สาทิยติฯ โส ตํ อสฺสาเทติ [โส ตทสฺสาเทติ (สี.)], ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺติํ อาปชฺชติฯ อิทมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมจริยสฺส ขณฺฑมฺปิ ฉิทฺทมฺปิ สพลมฺปิ กมฺมาสมฺปิฯ

อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, สํยุตฺโต เมถุเนน สํโยเคน น ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน [ชรามรเณน (สี. สฺยา.)] โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิฯ

‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, อิเธกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา สมฺมา พฺรหฺมจารี ปฏิชานมาโน น เหว โข มาตุคาเมน สทฺธิํ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติํ สมาปชฺชติ, นปิ มาตุคามสฺส อุจฺฉาทนปริมทฺทนนฺหาปนสมฺพาหนํ สาทิยติ; อปิ จ โข มาตุคาเมน สทฺธิํ สญฺชคฺฆติ สํกีฬติ สํเกลายติ…เป.… นปิ มาตุคาเมน สทฺธิํ สญฺชคฺฆติ สํกีฬติ สํเกลายติ; อปิ จ โข มาตุคามสฺส จกฺขุนา จกฺขุํ อุปนิชฺฌายติ เปกฺขติ…เป.… นปิ มาตุคามสฺส จกฺขุนา จกฺขุํ อุปนิชฺฌายติ เปกฺขติ; อปิ จ โข มาตุคามสฺส สทฺทํ สุณาติ ติโรกุฏฺฏํ วา ติโรปาการํ วา หสนฺติยา วา ภณนฺติยา วา คายนฺติยา วา โรทนฺติยา วา…เป.… นปิ มาตุคามสฺส สทฺทํ สุณาติ ติโรกุฏฺฏํ วา ติโรปาการํ วา หสนฺติยา วา ภณนฺติยา วา คายนฺติยา วา โรทนฺติยา วา; อปิ จ โข ยานิสฺส ตานิ ปุพฺเพ มาตุคาเมน สทฺธิํ หสิตลปิตกีฬิตานิ ตานิ อนุสฺสรติ…เป.… นปิ ยานิสฺส ตานิ ปุพฺเพ มาตุคาเมน สทฺธิํ หสิตลปิตกีฬิตานิ ตานิ อนุสฺสรติ; อปิ จ โข ปสฺสติ คหปติํ วา คหปติปุตฺตํ วา ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตํ สมงฺคีภูตํ ปริจารยมานํ…เป.… นปิ ปสฺสติ คหปติํ วา คหปติปุตฺตํ วา ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตํ สมงฺคีภูตํ ปริจารยมานํ; อปิ จ โข อญฺญตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวญฺญตโร วาติฯ โส ตํ อสฺสาเทติ, ตํ นิกาเมติ, เตน จ วิตฺติํ อาปชฺชติฯ อิทมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมจริยสฺส ขณฺฑมฺปิ ฉิทฺทมฺปิ สพลมฺปิ กมฺมาสมฺปิฯ อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, อปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ สํยุตฺโต เมถุเนน สํโยเคน, น ปริมุจฺจติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ, น ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิฯ

‘‘ยาวกีวญฺจาหํ, พฺราหฺมณ, อิเมสํ สตฺตนฺนํ เมถุนสํโยคานํ อญฺญตรญฺญตรเมถุนสํโยคํ [อญฺญตรํ เมถุนสํโยคํ (สี. สฺยา.)] อตฺตนิ อปฺปหีนํ สมนุปสฺสิํ, เนว ตาวาหํ, พฺราหฺมณ, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธิํ อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจญฺญาสิํ [อภิสมฺพุทฺโธ ปจฺจญฺญาสิํ (สี. สฺยา.)]

‘‘ยโต จ โขหํ, พฺราหฺมณ, อิเมสํ สตฺตนฺนํ เมถุนสํโยคานํ อญฺญตรญฺญตรเมถุนสํโยคํ อตฺตนิ อปฺปหีนํ น สมนุปสฺสิํ, อถาหํ, พฺราหฺมณ, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธิํ อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจญฺญาสิํฯ ‘ญาณญฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ, อกุปฺปา เม วิมุตฺติ [เจโตวิมุตฺติ (สี. ก.)], อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’’ติฯ

เอวํ วุตฺเต ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม; อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ สตฺตมํฯ

8. สํโยคสุตฺตํ

[51] ‘‘สํโยควิสํโยคํ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมปริยายํ เทเสสฺสามิฯ ตํ สุณาถ…เป.… กตโม จ โส, ภิกฺขเว, สํโยโค วิสํโยโค ธมฺมปริยาโย?

‘‘อิตฺถี, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ อิตฺถินฺทฺริยํ มนสิ กโรติ – อิตฺถิกุตฺตํ อิตฺถากปฺปํ อิตฺถิวิธํ อิตฺถิจฺฉนฺทํ อิตฺถิสฺสรํ อิตฺถาลงฺการํฯ สา ตตฺถ รชฺชติ ตตฺราภิรมติฯ สา ตตฺถ รตฺตา ตตฺราภิรตา พหิทฺธา ปุริสินฺทฺริยํ มนสิ กโรติ – ปุริสกุตฺตํ ปุริสากปฺปํ ปุริสวิธํ ปุริสจฺฉนฺทํ ปุริสสฺสรํ ปุริสาลงฺการํฯ สา ตตฺถ รชฺชติ ตตฺราภิรมติฯ สา ตตฺถ รตฺตา ตตฺราภิรตา พหิทฺธา สํโยคํ อากงฺขติฯ ยญฺจสฺสา สํโยคปจฺจยา อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ ตญฺจ อากงฺขติฯ อิตฺถตฺเต, ภิกฺขเว, อภิรตา สตฺตา ปุริเสสุ สํโยคํ คตาฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, อิตฺถี อิตฺถตฺตํ นาติวตฺตติฯ

‘‘ปุริโส, ภิกฺขเว, อชฺฌตฺตํ ปุริสินฺทฺริยํ มนสิ กโรติ – ปุริสกุตฺตํ ปุริสากปฺปํ ปุริสวิธํ ปุริสจฺฉนฺทํ ปุริสสฺสรํ ปุริสาลงฺการํฯ โส ตตฺถ รชฺชติ ตตฺราภิรมติฯ โส ตตฺถ รตฺโต ตตฺราภิรโต พหิทฺธา อิตฺถินฺทฺริยํ มนสิ กโรติ – อิตฺถิกุตฺตํ อิตฺถากปฺปํ อิตฺถิวิธํ อิตฺถิจฺฉนฺทํ อิตฺถิสฺสรํ อิตฺถาลงฺการํฯ โส ตตฺถ รชฺชติ ตตฺราภิรมติฯ โส ตตฺถ รตฺโต ตตฺราภิรโต พหิทฺธา สํโยคํ อากงฺขติฯ ยญฺจสฺส สํโยคปจฺจยา อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ ตญฺจ อากงฺขติฯ