เมนู

10. ทุติยวสสุตฺตํ

[41] ‘‘สตฺตหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต จิตฺตํ วเส วตฺเตติ, โน จ สาริปุตฺโต จิตฺตสฺส วเสน วตฺตติฯ กตเมหิ สตฺตหิ? อิธ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สมาธิกุสโล โหติ, สมาธิสฺส สมาปตฺติกุสโล, สมาธิสฺส ฐิติกุสโล, สมาธิสฺส วุฏฺฐานกุสโล, สมาธิสฺส กลฺยาณกุสโล, สมาธิสฺส โคจรกุสโล, สมาธิสฺส อภินีหารกุสโล โหติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว , สตฺตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต จิตฺตํ วเส วตฺเตติ, โน จ สาริปุตฺโต จิตฺตสฺส วเสน วตฺตตี’’ติฯ ทสมํฯ

11. ปฐมนิทฺทสสุตฺตํ

[42] อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตุํฯ ยํนูนาหํ เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติฯ อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อญฺญติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เตน โข ปน สมเยน เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ทฺวาทสวสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติฯ

อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิ นปฺปฏิกฺโกสิฯ อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามิ – ‘‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิํฯ ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตุํฯ ยํนูนาหํ เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’นฺติฯ อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิํ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อญฺญติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธิํ สมฺโมทิํฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํฯ

เตน โข ปน, ภนฺเต, สมเยน เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ทฺวาทสวสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, นิทฺทโส ภิกฺขูติ อลํ วจนายา’ติฯ อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิํ นปฺปฏิกฺโกสิํฯ อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมิํ [ปกฺกามิํ (สี. สฺยา.)] – ‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามี’ติฯ สกฺกา นุ โข, ภนฺเต, อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย เกวลํ วสฺสคณนมตฺเตน นิทฺทโส ภิกฺขุ ปญฺญาเปตุ’’นฺติ?

‘‘น โข, สาริปุตฺต, สกฺกา อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย เกวลํ วสฺสคณนมตฺเตน นิทฺทโส ภิกฺขุ ปญฺญาเปตุํฯ สตฺต โข อิมานิ, สาริปุตฺต, นิทฺทสวตฺถูนิ มยา สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิฯ

[อ. นิ. 7.20; ที. นิ. 3.331] ‘‘กตมานิ สตฺต? อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สิกฺขาสมาทาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติญฺจ สิกฺขาสมาทาเน อวิคตเปโม, ธมฺมนิสนฺติยา ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติญฺจ ธมฺมนิสนฺติยา อวิคตเปโม, อิจฺฉาวินเย ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติญฺจ อิจฺฉาวินเย อวิคตเปโม, ปฏิสลฺลาเน ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติญฺจ ปฏิสลฺลาเน อวิคตเปโม, วีริยารมฺเภ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติญฺจ วีริยารมฺเภ อวิคตเปโม, สติเนปกฺเก ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติญฺจ สติเนปกฺเก อวิคตเปโม, ทิฏฺฐิปฏิเวเธ ติพฺพจฺฉนฺโท โหติ อายติญฺจ ทิฏฺฐิปฏิเวเธ อวิคตเปโมฯ อิมานิ โข, สาริปุตฺต, สตฺต นิทฺทสวตฺถูนิ มยา สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิฯ อิเมหิ โข, สาริปุตฺต, สตฺตหิ นิทฺทสวตฺถูหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทฺวาทส เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย; จตุพฺพีสติ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย; ฉตฺติํสติ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนาย, อฏฺฐจตฺตารีสํ เจปิ วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติฯ เอกาทสมํฯ

12. ทุติยนิทฺทสสุตฺตํ

[43] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเมฯ อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย โกสมฺพิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตุํฯ ยํนูนาหํ เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติฯ อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อญฺญติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ

เตน โข ปน สมเยน เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ทฺวาทส วสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, ‘นิทฺทโส ภิกฺขู’ติ อลํ วจนายา’’ติฯ

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิ นปฺปฏิกฺโกสิฯ อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามิ – ‘‘ภควโต สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานิสฺสามี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อานนฺโท โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย โกสมฺพิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิํฯ ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อติปฺปโค โข ตาว โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตุํฯ ยํนูนาหํ เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’นฺติ…เป.… เตหิ สทฺธิํ สมฺโมทิํฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํฯ

‘‘เตน โข ปน, ภนฺเต, สมเยน เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ทฺวาทสวสฺสานิ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, นิทฺทโส ภิกฺขูติ อลํ วจนายา’ติฯ อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ภาสิตํ เนว อภินนฺทิํ นปฺปฏิกฺโกสิํฯ